นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งจัด 4 รุ่น ในรุ่นอายุไม่เกิน 13, 15, 17 และ 19 ปี เริ่มแข่งรอบภูมิภาค วันที่ 6-7 สิงหาคมนี้ มีแข่งทั่วประเทศ 160 คู่ การจัดแข่งบอลเยาวชนนี้่ ได้วางแผนงานระยะยาว 10 ปีใช้งบประมาณ 2 พันล้านบาท โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาล และเอกชน เริ่มแรกภาครัฐบาลจะเป็นผู้สนับสุนนหลัก จากนั้นปีต่อๆ มา ภาคเอกชน จะเข้ามาเต็มที่ โครงการนี้จัดทำเพื่อวางรากฐานพัฒนาฟุตบอลไทย ตั้งแต่เยาวชน ให้ได้ไปฟุตบอลโลกในทุกระดับรุ่น ไล่จาก 17 ปี, 20 ปี, โอลิมปิก และ ฟุตบอลโลก ที่ตั้งเป้าจะเข้ารอบสุดท้ายเวิลด์คัพ ค.ศ. 2026 นอกจากนี้ โครงการฟุตบอลเยาวชน ยังเป็นกีฬานำร่อง ก่อนนำไปใช้ในกีฬาอื่นด้วย
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า นอกจากเป้าหมายให้ทีมชาติไทยคัดเลือกไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้แล้ว ยังมีโครงการร่วมมือกับชาติอาเซียนขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งยืนยันว่าได้ศึกษาอย่างจริงจัง และจะนำเข้าสู่การหารือของชาติสมาชิกอาเซียน ส่วนการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เสนอตัวกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ขอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ รอบสุดท้าย ค.ศ. 2023 โดยมีคู่แข่งคือ จีน, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ตอนนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังไม่ได้ทำเรื่องเข้ามาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำไปสู่การขอมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่ออนุมัติแต่อย่างใด ซึ่งมติครม.เป็นข้อบังคับสำคัญในการเสนอตัวต่อเอเอฟซี.
ขณะที่นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า สำหรับการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งจัด 4 รุ่น ทุกอย่างค่อนข้างลงตัว แม้ว่าก่อนหน้านี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องผู้ตัดสินที่ไม่น่าจะเพียงพอเนื่องจากมีเตะถึง 160 คู่ แถมยังตรงกับศึกฟุตบอลลีกอาชีพไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า ไทยลีก, ยามาฮ่า ลีกวัน และ ดิวิชั่น 2 แต่ตอนนี้ก็เราแก้ปัญหาได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราต้องมามองถึงการพัฒนาผู้ตัดสินในบ้านเราให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เราได้คุยกับทางสถาบันพละศึกษาเพื่อหาทางออกถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว
“สำหรับการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 สเตจ ได้แก่ รอบคัดเลือก ซึ่งคัดให้เหลือโซนละ 10 ทีม, รอบแข่งแบบลีก, รอบแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งจะคัดอันดับ 1-2 ของแต่ละโซน และ รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจบกันในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2560 ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าในปีหน้านั้นจะมีทีมตอบรับเข้าร่วมมากกว่าเดิม และคุณภาพนักกีฬาจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปทุกปีแน่นอน” นายทนุเกียรติกล่าว
