ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ ได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทยต่ออีก 4 ปี เผยงานแรกต้องเร่งสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งเพื่อรอรับการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพชิงชนะเลิศแห่งเอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และเพื่อให้ทีมชาติไทยทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ได้มีลานที่ได้มาตรฐานฝึกซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมกับการแข่งขันในระดับนานาชาติ
หลังจากเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคม และทางสโมสรสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมต่างพร้อมใจกันยกมือให้ ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมที่กำลังจะหมดวาระให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทยต่ออีก 1 สมัย
ล่าสุด ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณสโมสรสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมที่ไว้วางใจให้ตนบริหารงานสมาคมอีก 1 สมัย โดยหลังจากนี้ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมขึ้นมา แต่มี 1 เรื่องที่ต้องเร่งทำโดยเร็วที่สุดคือการสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดมาตรฐานสากล เนื่องจากที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาโควิด-19 ที่ทำให้วงการไอซ์ฮอกกี้ไทยต้องหยุดชะงัก อีกทั้งลานสเก็ตน้ำแข็งที่เคยมีอยู่ก็พากันทยอยปิดกิจการลงไป เหลือเพียงไม่กี่ลานในไทยที่ยังดำเนินกิจการต่อ ทว่าลานที่ยังเปิดอยู่ทุกวันนี้เป็นลานขนาดเล็กที่ไม่สามารถใช้ฝึกซ้อมหรือแข่งขันได้ในระดับสากล ตรงนี้คือปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไขหลังเข้ามารับตำแหน่ง
ประมุขไอซ์ฮอกกี้ไทยเผยต่อว่า ก่อนหน้านี้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เสนอแผนเตรียมสร้างอาคารเนชั่นแนลเทรนนิ่งเซนเตอร์ซึ่งจะรวมหลายชนิดกีฬาอยู่ในนั้นและจะมีลานสเก็ตน้ำแข็งเพื่อให้กีฬาวินเทอร์สปอร์ตได้ฝึกซ้อมกัน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าโครงการนี้ อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มทุนเอกชนที่เดินทางมาพบตนและเสนอแนวทางการสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดมาตรฐานเพื่อให้สมาคมได้ใช้ในการแข่งขันและฝึกซ้อมนักกีฬา ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือแจ้งต่อผู้ว่ากกท.ในการขอสถานที่ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งที่เป็นของสมาคม โดยไม่กระทบเงินของรัฐบาลเพียงแต่ขอสถานที่เท่านั้น และหาก กกท.อนุมัติทางสมาคมก็พร้อมที่จะลงเสาเข็มก่อสร้างทันที
นอกจากนี้ ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า กีฬาวินเตอร์สปอร์ต หรือที่ใครๆจะเรียกว่ากีฬาฤดูหนาวนั้น ในนามทีมชาติไทยก็สร้างผลงานที่โดดเด่นทั้งในระดับเอเชีย และ ระดับโลก และในปัจจุบันนี้กีฬาจำพวกลานน้ำแข็งก็ได้รับความสนใจมากพอสมควรและมีหลายชนิดกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ในส่วนของไอซ์ฮอกกี้นั้นที่ผ่านมาทีมชายก็ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 ของเอเชี่ยนเกมส์ ฤดูหนาว ได้เหรียญทองซีเกมส์ ได้ลงแข่งในเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ และยังได้สิทธิเข้าไปคลอลิฟายโอลิมปิกฤดูหนาว ส่วนทีมหญิงล่าสุดก็ได้แชมป์เอเชีย ขณะที่ทีมเยาวชนของไทยก็สามารถคว้าแชมป์ระดับเอเชียอย่างมากมาย ฉะนั้นตนอยากขอ กกท.อนุมัติพื้นที่ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อสมาคมจะได้ทำการสร้างลานสเก็ตน้ำแข็งเพื่อทดแทนลานเดิมที่เลิกกิจการไปในช่วงโควิด โดยในช่วงกลางปี 2564 ไทยเตรียมจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งชิงชนะเลิศแห่งเอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี แต่ปัญหาคือยังไม่มีลานที่ใช้แข่งขัน
“ผมขอบอกตรงนี้ว่าสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งก็คือการสร้างลาน เพราะลานเดิมที่เคยใช้ทางเจ้าของได้ปิดกิจการลงไป แต่ตอนนี้มีกลุ่มทุนมาเสนอแผนสร้างลานให้สมาคม ผมก็ตอบรับและได้ส่งหนังสือถึง ดร.ก้องศักด ผู้ว่ากกท.แล้วว่าจะขอเพียงสถานที่เท่านั้น ส่วนลานที่กลุ่มทุนมานำเสนอนั้นจะเป็นลานรูปแบบไอซ์สเก็ตสเตเดี้ยมมีขนาดมาตรฐานโอลิมปิกและเมื่อสร้างเสร็จลานแห่งนี้จะใช้เป็นที่ฝึกซ้อมนักกีฬาตั้งแต่รุ่นเยาวชนไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ อีกทั้งยังจะเป็นโฮมเนชั่นแนลของทีมไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย และที่สำคัญตนสัญญาว่าลานนี้จะไม่ใช้ในเชิงพานิชอย่างแน่นอน” ม.ล.กฤษฎากล่าว
