ภาณุพล เฉือน อุดร 1สโตรก ผงาดแชมป์กอล์ฟ สิงห์ เอสเอที กาญจนบุรี
ภาณุพล พิทยารัฐ เก็บ 4 เบอร์ดี้ในช่วงเก้าหลุมสุดท้ายก่อนจบรอบ 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 15 อันเดอร์พาร์ 201 เฉือน อุดร ดวงเดชา 1 สโตรก คว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในชีวิต ในศึกสิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ที่สนามเอเวอร์กรีน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,289 หลา พาร์ 72 จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท โดยจัดภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ โควิด-19 จากทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รายการนี้เป็นการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่เจ็ดของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 54 หลุม ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2563 ที่สนามเอเวอร์กรีน ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,289 หลา พาร์ 72 จ.กาญจนบุรี
การแข่งขันเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ภาณุพล พิทยารัฐ โปรวัย 27 ปีจากกรุงเทพฯ ออกสตาร์ทตามหลังผู้นำ 2 สโตรก ประเดิมตุนไว้ก่อน 2 เบอร์ดี้ในช่วงเก้าหลุมแรก ก่อนเข้าเก้าหลุมหลังกดเข้ามาอีก 4 เบอร์ดี้ แบบไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว จบรอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสามวันคว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 201 เฉือนชนะ อุดร ดวงเดชา ที่หวดเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 เพียงสโตรกเดียว
ทั้งนี้ นับเป็นการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองของ ภาณุพล แต่เป็นครั้งแรกนับจากคว้าชัยชนะที่เซนต์ แอนดรูว์ 2000 เมื่อปี 2013 ก่อนจะเฉียดไปเฉียดมาหลายครั้งในฤดูกาลนี้ ซึ่งหนุ่มวัย 27 ปีจากกรุงเทพฯ กล่าวหลังรับเช็กมูลค่า 240,000 บาทว่า “ดีใจครับ ปีนี้ได้ที่สองมาสองแมทช์ ได้ที่สามที่รายการ มาวันนี้ได้ที่หนึ่ง ดีใจที่ชนะก่อนจะจบปีได้ครับวันนี้สนุกครับ เพราะว่าพยายามออกไปตีสบายๆไม่เครียด”
ภาณุพล ที่ชนะไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดในอาชีพยังได้กล่าวถึงการเล่นในสัปดาห์นี้ที่ เอเวอร์กรีนฯ กล่าวอีกว่า “ตลอดทั้งสัปดาห์พยายามเล่นแบบมีสติ พยายามคุมให้อยู่ในเกมของเรา พยายามทำในสิ่งที่ซ้อมมาแล้วลองออกไปลองว่ามันได้ผลไหม วันนี้ก็ทำได้ผล ที่สำคัญสัปดาห์นี้ตีเข้าไปเหลือระยะแท็ปอินเยอะมาก โดยเฉพาะรอบเก้าหลุมหลังเป็นรอบที่ผมตีดีทั้งอาทิตย์ เก้าหลุมหลังสัปดาห์นี้ทำไป 12 อันเดอร์ เป็นรอบที่ผมชอบครับ”
ส่วน อุดร ดวงเดชา เก็บเบอร์ดี้บนกรีนหลุมสุดท้ายสำเร็จก่อนจบรอบสุดท้าย 5 อันเดอร์พาร์ 67 สามวัน 14 อันเดอร์พาร์ 202 พ่ายไป 1 สโตรกรับเงินปลอบใจไป 132,000 บาท และอันดับสาม ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย ที่หวดเข้ามาอีก 68 รวมสามวัน 12 อันเดอร์พาร์ 204 รับเงินรางวัลไปครอง 85,200 บาท
สำหรับ วิสุทธิ์ อรรจนาวัฒน์ นักกอล์ฟวัย 39 ปีที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการนำ 1 สโตรก แต่เปิดฉากวันสุดท้ายไม่ดีเสีย 3 โบกี้ในการเล่น 3 หลุมแรก ก่อนจบสกอร์รอบสุดท้ายเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 76 รวมสามวัน 7 อันเดอร์พาร์ 209 หล่นไปจบการแข่งขันในอันดับ 17 ร่วม
