‘สองล้อ’ เดินหน้าเก็บตัวสู้ศึกซีเกมส์ เวียดนามแสบตัดรายการที่นักปั่นไทยเต็ง 1

‘สองล้อ’ เดินหน้าเก็บตัวสู้ศึกซีเกมส์ เวียดนามแสบตัดรายการที่นักปั่นไทยเต็งแชมป์

“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ถึงผลการประชุมมนตรีซีเกมส์ ด้วยระบบการประชุมทางไกลกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในเรื่องการกำหนดรายการชิงเหรียญทองมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งที่ประชุมสรุปว่าจะบรรจุการแข่งขันทั้งสิ้น 40 ชนิดกีฬา 529 รายการ

พล.อ.เดชา กล่าวว่า ในส่วนของกีฬาจักรยาน เป็นที่แน่นอนแล้วว่า เวียดนามจะบรรจุแต่เพียงประเภทถนน และเสือภูเขา เท่านั้น โดยกำหนดชิงชัยกันทั้งสิ้น 12 เหรียญทอง แบ่งออกเป็น ประเภทถนน 7 เหรียญทอง ประกอบด้วย ไครทีเรียม ชาย-หญิง, ไทม์ไทรอัลบุคคล ชาย-หญิง, แมสสตาร์ท บุคคลชาย, แมสสตาร์ท บุคคลหญิง, แมสสตาร์ท ทีมหญิง / ประเภทภูเขา 5 เหรียญทอง ประกบอด้วย ครอสคันทรี่ ชาย-หญิง, ดาวน์ฮิล ชาย-หญิง และ ครอสคันทรี่ทีมรีเลย์

“จะเห็นได้ว่าการจัดรายการชิงเหรียญทองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะการตัดรายการทีมไทม์ไทรอัล ชาย-หญิง และ แมสสตาร์ท ทีมชาย ออกจากการชิงเหรียญทอง เท่ากับตัดโอกาสของทีมชาติไทย เนื่องจากนักปั่นของเราเป็นตัวเต็งที่จะกวาดเหรียญทองในการแข่งขันทีมของประเภทถนน ในขณะที่ประเภทเสือภูเขาก็ตัดรายการเมาเท่นไบค์อีลิมิเนเตอร์ออก ซึ่งนักปั่นไทยเราก็เป็นตัวเต็งเหรียญทองเช่นเดียวกัน” พลเอกเดชา กล่าว

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า ไม่ว่าเจ้าภาพจะดำเนินการอย่างไรในการจัดอีเวนท์การแข่งขัน สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็พร้อมที่จะรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ ซึ่งในปัจจุบันนักปั่นไทยก็พัฒนายกระดับฝีเท้าขึ้นมาจากในอดีตจนเป็นที่จับตาของวงการกีฬาสองล้อเอเชีย ขณะนี้ทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ ดำเนินการวางแผนเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อรับสถานการณ์การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 โดยมี “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนประเภทถนน และเรืออากาศเอก สุภัทร ศรีไสว รับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนประเภทเสือภูเขา จัดทำแผนการฝึกซ้อมเตรียมความพร้อม

Advertisement

พล.อ.กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้น สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะให้สิทธิ์ตัวยืนแก่นักปั่นทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่มีผลงานเหรียญทองจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นตัวหลัก ในขณะที่สตาฟฟ์โค้ชก็จะติดตามสังเกตฟอร์มของนักปั่นดาวรุ่งจากการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2564 เพื่อเรียกตัวนักปั่นที่มีผลงานและพัฒนาการเข้าร่วมเป็นนักปั่นทีมชาติไทยอีกทางหนึ่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่สนามที่ 1 ที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

พล.อ.กล่าวเสริมว่า หนึ่งในแนวทางสำคัญของการเก็บตัวฝึกซ้อมรับการแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม ก็คือการแข่งขันกันภายในทีม ซึ่งจะมีการประเมินผลและวัดผลการฝึกซ้อมของนักปั่นทีมชาติไทยเป็นระยะ หากผลการฝึกซ้อมของนักปั่นรายใดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่นักปั่นดาวรุ่งหากมีผลงานดีกว่า ก็จะพิจารณาเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติไทยทดแทนต่อไป

“ปัจจุบันนักกีฬาจักรยานของไทย มีตัวเลือกในระดับสูงสุดมากขึ้นกว่าในอดีต ส่งผลให้เราสามารถเลือกนักกีฬาที่ดีที่สุดสำหรับการแข่งขันในแต่ละรายการได้มากขึ้นและเหมาะสมกับสถานการณ์ สำหรับการแข่งขันจักรยานซีเกมส์ ครั้งที่ 31 จะยึดหลักว่า ยังไม่มีนักปั่นรายใดติดทีมชาติหรือเป็นตัวจริง จนกว่าจะถึงกำหนดการส่งรายชื่อ Entry Form By Name ในขณะที่นักปั่นตัวจริงที่จะลงแข่งขันจริง ก็จะยึดถือเอาการพิจารณาความเหมาะสมทั้งในเรื่องร่างกาย สภาพจิตใจ และความเหมาะสมกับสภาพของสนามแข่งขันที่จะต้องลงแข่งขันจริงเป็นหลัก ซึ่งก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาส่งชื่อนักปั่นตัวจริงกันในนาทีสุดท้ายตามที่ระเบียบการแข่งขันกำหนดไว้” พล.อ.เดชากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image