‘สุวัจน์’ ยกระดับหวดหัวหิน ปีหน้าเพิ่มทัวร์-เงินรางวัล ส่งแรงใจคนกีฬาฝ่าวิกฤตโควิด
หลังจากที่การแข่งขันเทนนิสอาชีพ รายการ “หัวหิน โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย แคล-คอมพ์ แอนด์ ซีซีเอยู อินดัสเทรียล 4.0” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “หัวหินเมืองแห่งความสุข” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ รวม 3 รายการ ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านบาท โดยรายการแรก และรายการสอง เป็นการสะสมคะแนน เพื่อคัดเลือกนักกีฬาเข้าสู่รายการสุดท้ายในรอบมาสเตอร์ หาผู้ชนะเลิศ ที่จีเอสบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้มาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อช่วงวันที่ 22-27 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานและที่ปรึกษาการแข่งขัน และนายกกิตติมศักด์สมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณแฟนเทนนิส และผู้สนับสนุน ที่ทำให้การแข่งขันในปีแรกประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันภายในประเทศ ที่เปิดโอกาสให้นักเทนนิส ทั้งระดับทั่วไป และเยาวชน ได้เข้าร่วมแข่งขันรายการอาชีพในสนามระดับโลก ในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งและมีนักกีฬาเข้าร่วมจำนวนมาก
นายสุวัจน์กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดแมทช์ระดับนานาชาติได้ จึงได้จัดรายการ หัวหิน โอเพ่น นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการรักษามาตฐานของนักเทนนิสไทยให้มีรายการแข่งขันต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คิดว่าในปีหน้า สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่จบสิ้น ดังนั้นทางผู้จัดการแข่งขัน รวมทั้ง “บอล” นายภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิส มือ 9 ของโลก ในฐานะผู้อำนวยการการแข่งขัน และผู้สนับสนุน จึงได้ปรึกษาหารือกันว่า ปีหน้าจะยังจัดการแข่งขันรายการนี้ต่อไป แต่จะเพิ่มจำนวนทัวร์นาเมนต์ จากเดิมปีนี้จัด 3 ทัวร์นาเมนต์ ส่วนปีหน้าจะเพิ่มเป็น 6 ทัวร์นาเมนต์ แบ่งเป็น 5 ทัวร์นาเมนต์สะสมคะแนน และ 1 ทัวร์นาเมนต์ชิงชนะเลิศในรอบมาสเตอร์
“ปีหน้า เราจะกลับมาเจอกันใหม่ในรายการ หัวหิน โอเพ่น อีก 6 ทัวร์นาเมนต์ ซึ่งจากการประสบความสำเร็จในปีนี้ ทางผู้จัดก็ได้มีการพิจารณาเพิ่มทั้งในเรื่องจำนวนทัวร์นาเมนต์ เพิ่มประเภทการแข่งขัน และเพิ่มจำนวนเงินรางวัลด้วย โดยเป็นเรื่องน่ายินดีที่ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่เป็นบริษัทจากไต้หวัน และมาลงทุนในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่งออกเป็นอันดับ 5 ของโลก ยินดีให้การสนับสนุนวงการกีฬาบ้านเรา ทำให้ปีหน้าก็จะมีการเพิ่มทั้งทัวร์นาเมนต์ และเงินรางวัล เพื่อให้นักกีฬาของเราได้มีเวทีแข่งขันต่อไป”
นายสุวัจน์กล่าวในช่วงท้ายว่า สำหรับในปีหน้า สถานการณ์โควิด-19 อาจยังคงอยู่ไปอีก ฉะนั้นสมาคมกีฬาต่างๆ จะต้องช่วยกันคิดหาทัวร์นาเมนต์การแข่งขันต่างๆ เพื่อช่วยกันรักษาระดับมาตรฐานของนักกีฬาแต่ละประเภท ภายใต้สถานการณ์กดดันจากโควิด-19 และกดดันจากภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งยอมรับว่า สปอนเซอร์หายาก ทำให้วงการกีฬาค่อนข้างลำบาก แต่ทุกคนต้องต่อสู้กัน โดยส่วนตัวก็อยากที่จะให้กำลังใจคนวงการกีฬา ทั้งนายกสมาคมกีฬา และคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาทุกแห่ง ขอให้มุ่งมั่น อย่าท้อถอย เชื่อว่าเรามาสู้กันอีกสักปี เพื่อช่วยกันรักษาวงการกีฬาไทยของเราเอาไว้ให้ได้ เพราะเชื่อว่ากีฬาเป็นความสุขของคนทั้งประเทศ
