ฟีฟ่า ยันศึกคัดบอลโลกเตะ มี.ค. ทัพช้างศึก ลุ้นเปิดบ้านดวลแข้ง อิเหนา
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ของทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ซึ่งอยู่ในกลุ่มจี และยังเหลือโปรแกรมเตะ 3 นัดสุดท้าย ประกอบด้วย เปิดบ้านพบ “อิเหนา” อินโดนีเซีย วันที่ 25 มีนาคม, บุกเยือน “กองทัพชุดขาว” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันที่ 7 มิถุนายน และรับมือ “เสือเหลือง” มาเลเซีย วันที่ 15 มิถุนายน นั้น
“บิ๊กโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ความเป็นไปได้สำหรับการจัดการแข่งขันในเดือนมีนาคมนั้น ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้กำหนดแล้วว่า ให้ใช้ช่วงฟีฟ่าเดย์ในเดือนมีนาคม และมิถุนายน ทำการแข่งขันให้จบในรอบสอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเทศต่างๆ ว่ามีข้อจำกัดใดบ้างในการจะจัดการแข่งขัน อย่างเช่น ประเทศไทย ตอนนี้ยังคงปิดสนามกีฬาอยู่ ก็ต้องรอดูใกล้ๆ ว่าจะสามารถจัดการแข่งขันได้หรือไม่
นายพาทิศ กล่าวอีกว่า ทางฟีฟ่านั้นให้เตะตามโปรแกรม และให้เป็นการสื่อสารกันระหว่างทีมที่จะแข่งขัน อย่างเช่น ไทยจะเจอกับอินโดนีเซีย ในเดือนมีนาคมนั้น ก็ต้องถามก่อนว่า ไทยสามารถจัดการแข่งขันได้หรือไม่ ตอนนี้ในกรุงเทพฯ มีคำสั่งปิดสนามกีฬา แต่เป็นคำสั่งชั่วคราว ดังนั้นไทยก็ต้องแจ้งทางอินโดนีเซียไปว่า สนามกีฬายังปิดอยู่ และการเดินทางเข้าประเทศไทย ก็มีมาตรการกักตัว 14 วัน เมื่อใกล้ถึงช่วงแข่งขัน ก็จะต้องแจ้งทางอินโดนีเซียอีกครั้ง ว่าป ระเทศไทยมีข้อจำกัดใดบ้าง
“ต้องดูสถานการณ์ และระเบียบในตอนนั้น ถ้าหากว่าไทยบอกว่าสามารถแข่งขันได้ อินโดนีเซียก็ควรจะต้องเดินทางมา แต่ถ้าหากเขามีปัญหาเรื่องการกักตัว 14 วัน ก็ต้องดูว่าเขารับได้หรือไม่ แต่ผมคิดว่า ทางอินโดนีเซียเหลือโปรแกรมอยู่ 3 นัด ทั้งไทย และอินโดนีเซีย ก็คงไม่อยากให้โปรแกรมทุกอย่างไปอัดอยู่ในเดือนมิถุนายนทั้งหมด และเป็นช่วงสำคัญที่เราจะต้องเก็บคะแนนด้วย ดังนั้นถ้าไปเล่นสนามกลางทั้ง 3 นัด อาจจะเป็นเรื่องที่เสียเปรียบ แต่ถ้ามีโอกาสเล่นในบ้านก่อนสัก 1 เกม ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี”
พ่อบ้านลูกหนังไทย กล่าวอีกว่า ได้พยายามเกาะติดสถานการณ์อยู่ เพื่อจะแจ้งกับอินโดนีเซีย และฟีฟ่าว่าสามารถจัดการแข่งขันได้หรือไม่ ถ้าหากว่า อินโดนีเซียไม่ติดอะไร พร้อมเดินทางมากักตัว 14 วันแล้วทำการแข่งขัน ก็สามารถทำได้ ส่วนชาติอื่นเองก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ที่ต้องเช็กสถานการณ์ตลอดเวลา ส่วนฟีฟ่าไม่ได้ยกเลิกฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคมไป ทีมไหนเตะได้ก็เตะ ฉะนั้นอย่างชาติตะวันออกกลาง ที่ไม่ค่อยมีปัญหา อาจจะเตะก่อนก็ทำได้เช่นกัน
“เดดไลน์ที่วางไว้คือเดือนมิถุนายนต้องจบการแข่งขันในรอบคัดเลือก รอบสอง เชื่อว่าถ้ายังแข่งขันไม่ได้ ทางเอเอฟซี น่าจะเอนเอียงไปทางเตะสนามกลาง เพื่อทำให้การแข่งขันทั้งหมดจบลง” นายพาทิศ กล่าวปิดท้าย
