‘บิ๊กอ๊อด’ เร่งหาที่ผุดศูนย์ฝึกแห่งชาติ หวั่นถ้าช้าส่อชวดเงินหนุนฟีฟ่า60ล้าน
ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ โดยได้กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ ช่วยสนับสนุนงบประมาณ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้จะวางแผนมากกว่า 1 ปี แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถหาพื้นที่ได้ ซึ่งพื้นที่ที่เล็งไว้คือ ที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี แต่ติดขัดปัญหา ไม่สามารถส่งมอบให้ได้ตามที่ต้องการ หมดสิทธิ์ใช้งานแน่นอนนั้น
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ถึงตอนนี้ยอมรับว่า ยังไม่มีความคืบหน้านัก เพราะยังไม่มีพื้นที่ที่จะก่อสร้าง และยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมมีความพยายามมาตลอด ทั้งที่ มวกเหล็ก หรือ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม แต่ก็ติดขัดปัญหา สมาคมประสานงานกับทุกที่ที่เราคิดว่าเหมาะสม ทั้งจากการขอบริจาค และยินดีเช่าด้วยสัญญาระยะยาว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะโยกไปก่อสร้างที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่า ตอนนี้เป็นเพียงแค่ติดต่อทาบทาม ซึ่งทราบมาว่า เทศบาลเมืองชะอำ มีโครงการจะเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ ทางสมาคมก็จะขอแบ่งเช่าต่อ ดังนั้นก็ต้องรอว่า เทศบาลเมืองชะอำ จะเช่าที่ผืนเมื่อไหร่ ถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะดีมาก ศูนย์แห่งนี้จุดหมายหลักคือ เก็บตัวทีมชาติไทย แต่ช่วงที่ไม่มีทีมชาติไปเก็บตัวก็จะปรับเป็นรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพัก เพราะต้องหารายได้ ไม่ใช่สร้างแล้วปล่อยทิ้ง
“ผมบอกว่า จะต้องพยายามรีบสร้าง เพราะสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะมีเงินสนับสนุนให้สำหรับหมวดโครงสร้างพื้นฐาน ไปยังสมาคมฟุตบอลแต่ละประเทศ แต่หากช้าไปก็ไม่รู้ว่างบส่วนนี้จะยังมีหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย( เอเอฟซี) ก็มีงบให้สมาคมฟุตบอลประเทศต่างๆ ในหมวดโครงสร้างพื้นฐานเช่นกัน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 30 ล้านบาท) แต่เมื่อมีโควิด-19 ระบาด เอเอฟซี ก็ตัดงบส่วนนี้ออกไป เพื่อไปดำเนินการส่วนที่เจอผลกระทบ”
นายกลูกหนังไทยกล่าวอีกว่า ตอนนั้นเงินจากเอเอฟซี ประเทศที่ได้แล้วก็ได้ไป แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด ประเทศที่ยังไม่ได้เสนอโครงการ รวมทั้งไทยเราก็ไม่ได้ เช่นเดียวกับเงินของฟีฟ่า เราก็ไม่รู้ว่าจะตัดงบช่วยเหลือเรื่องโครงสร้างพื้นฐานหรือไม่ และเมื่อไหร่ ดังนั้นถ้าหากล่าช้า แล้วเขาตัดงบไป ก็จะไม่ได้การสนับสนุนจากฟีฟ่า
ด้าน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟีฟ่า จะมีงบสำหรับพัฒนาสาธารณูปโภค เกี่ยวกับฟุตบอลให้ชาติสมาชิก 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 60 ล้านบาท) ต่อวงรอบ 4 ปี ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลไทยฯ เบิกงบรอบแรก ไปทำศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอลที่ ม.กรุงเทพธนบุรี โดยตอนนี้อยู่ในวงรอบที่ 2 ซึ่งงบส่วนนี้ สมาคมต้องมีโครงการ เพื่อไปเสนอ และจะอนุมัติโดยบอร์ด ที่จะดูว่าเอาไปทำอะไร อาจจะไม่ใช่แค่ศูนย์ฝึก
“ทางฟีฟ่าก็ให้แนวคิดมาด้วยว่าทำอะไรได้บ้าง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องมีที่ดิน ในการตั้งต้นว่าจะทำอะไร ซึ่งตอนนี้อยู่ในวงรอบที่ 2 ซึ่งก็ใกล้จะหมดวงรอบแล้ว เขาก็จะถามจะเอาไปใช้ส่วนไหนหรือไม่ ถ้าหากเราไม่ใช้ ก็มีสิทธิ์ที่จะตัดเงินสนับสนุนของวงรอบนี้ไป” นายพาทิศ กล่าวปิดท้าย
