ยูเซน โบลต์ ยอดนักวิ่งระยะสั้นจากจาเมกา ยอมรับผิดหวังที่ไม่สามารถทำลายสถิติโลกวิ่ง 200 เมตรที่ตัวเองเคยทำไว้ 7 ปีก่อนที่เวลา 19.19 วินาที รวมทั้งเป้าหมายที่ประกาศมาตลอดว่าจะวิ่ง 200 เมตรให้ต่ำกว่า 19 วินาที แม้จะคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 200 เมตร 3 สมัยติดในกรีฑาโอลิมปิกเกมส์ 2016 หรือรีโอเกมส์ ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม
ยูเซน โบลต์ (ที่ 2 จากซ้าย) ไม่พลาดเข้าเส้นชัย 200 เมตรชายคนแรก แต่ทำเวลาไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ (AFP)
โบลต์ที่จะอายุครบ 30 ปี วันที่ 21 สิงหาคม หรือตรงกับพิธีปิดรีโอเกมส์ ซึ่งเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัว และจะอำลาวงการหลังศึกกรีฑาชิงแชมป์โลก 2017 เดือนสิงหาคมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เต็มไปด้วยดีกรีอย่างเจ้าของสถิติโลก 100, 200, 4×100 เมตร, เหรียญทองโอลิมปิก 100 เมตรปี 2008, 2012, 2016, เหรียญทองโอลิมปิก 4×100 ปี 2008, 2012 รวมทั้งแชมป์กรีฑาชิงแชมป์โลกจากการวิ่งทั้ง 3 ประเภทรวมกันอีก 11 ครั้งในปี 2009, 2011, 2013, 2015
แต่เจ้าตัวกลับปล่อยโอกาสทำลายสถิติโลกในการวิ่ง 200 เมตรรอบรองชนะเลิศโอลิมปิกครั้งนี้เมื่อหนึ่งวันก่อน หลังวิ่งไปยิ้มไป แถมยังหันมาหัวเราะกับอันเดร เด แกรส จากแคนาดา ก่อนเข้าเส้นชัยแบบที่ทั้งคู่ทิ้งห่างนักวิ่งคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดด้วยเวลา 19.78 วินาที
ส่งผลให้โบลต์เหลือโอกาสทำลายสถิติโลก 19.19 วินาที หรือวิ่งได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ว่าจะวิ่งต่ำกว่า 19 วินาที แค่รอบชิงเหรียญทอง ปรากฏว่าโบลต์เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ตามความคาดหมายก็จริง แต่กลับทำเวลาได้ 19.78 วินาที เท่ากับรอบรองชนะเลิศที่ตัวเองวิ่งไปยิ้มไป ส่วนเหรียญเงินเป็นอันเดร เด แกรส จากแคนาดา 20.02 วินาที และเหรียญทองแดง คริสตอฟ เลเมตร์ จากฝรั่งเศส 20.12 วินาที
จังหวะที่โบลต์วิ่งไปหันมาแซวกับอันเดร เด แกรส ในรอบรองชนะเลิศ (AFP)
แม้โบลต์จะยืนยันว่าการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 200 เมตรเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นเหรียญทองที่ 8 จากโอลิมปิก 2008, 2012, 2016 จะเป็นความรู้สึกที่สุดยอด แต่ไม่พอใจกับเวลา 19.78 วินาทีที่ออกมา และคงต้องยอมรับว่าร่างกายตัวเองที่กำลังจะมากถึง 30 ปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ไม่สามารถทำได้ตามที่ใจต้องการเหมือนเมื่อก่อน รวมทั้งนี่อาจจะเป็นการวิ่ง 200 เมตรครั้งสุดท้ายของตัวเอง แต่จะกลับไปทบทวนเรื่องนี้ให้ดีอีกครั้ง เนื่องจากเกล็น มิลส์ โค้ชที่อยู่ด้วยกันมานานคงไม่คิดแบบนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าของท่าดีใจ “สายฟ้าฟาด” รายนี้ ยังมีโปรแกรมชิงอีกหนึ่งเหรียญทองในการวิ่ง 4×100 เมตรกับอีก 3 เพื่อนร่วมชาติจาเมกา วันถัดมาที่ 19 สิงหาคม แต่ตรงกับเช้าเวลาไทย 08.35 น. วันรุ่งขึ้นที่ 20 สิงหาคม ซึ่งหากได้เหรียญทอง 4×100 เมตรสำเร็จ จะทำให้โบลต์ได้เหรียญทองโอลิมปิกถึง 9 เหรียญ เป็นรองเพียงไมเคิล เฟลป์ส ตำนานนักว่ายน้ำสหรัฐอเมริกา ที่ได้ถึง 23 เหรียญทองในการเป็นนักกีฬาที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกสูงสุดตลอดกาล
แต่อยู่อันดับ 6 เพราะแม้จะได้ 9 เหรียญทองเท่าอีก 4 ยอดนักกีฬาก่อนหน้านี้ แต่ลาริซ่า ลาตินยาน่า นักยิมนาสติกหญิงจากอดีตสหภาพโซเวียต, ปาโว นูร์มี่ นักวิ่งจากฟินแลนด์, มาร์ก สปิตซ์ นักว่ายน้ำจากสหรัฐ และคาร์ล ลูอิส นักวิ่งจากสหรัฐ แต่ทั้งหมดมีเหรียญเงินมากกว่าโบลต์ที่ยังไม่ได้เคยได้เหรียญเงินเลย
