ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ซึ่งเตรียมลงสนามฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี โดยจะประเดิมสนามด้วยการบุกเยือน ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 1 กันยายน และกลับมาเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบ ญี่ปุ่น วันที่ 6 กันยายนนั้น
“โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เปิดเผยว่า สมัยที่เป็นนักเตะเคยผ่านเข้ามาถึงรอบคัดเลือก รอบสุดท้าย ตอนคัดฟุตบอลโลก 2002 ครั้งนี้ในฐานะโค้ชก็อยากจะทำให้ดีกว่าเดิม ยอมรับว่าในปีนี้โปรแกรมของทีมชาติไทยค่อนข้างหนัก เพราะต้องเจอกับทีมแข็งแกร่งอย่างญี่ปุ่น และออสเตรเลียในบ้าน ส่วนทีมที่ฝีเท้าไม่ห่างกันมากอย่างซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอิรักเป็นเกมเยือนทั้งหมด
“สองเกมแรกที่ไปเยือนซาอุดีอาระเบียกับเล่นในบ้านเจอญี่ปุ่นต้องมีคะแนนให้ได้ และถ้าจบปีนี้ยังมีสถานการณ์ดีที่สามารถลุ้นเข้ารอบได้ เชื่อว่าห้านัดหลังในปีหน้าจะต้องสนุกแน่นอน”ซิโก้กล่าว
อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา กล่าวต่อว่า เกมอุ่นเครื่องกับกาตาร์ วันที่ 25 สิงหาคม นักเตะไทยจะต้องพร้อมทั้ง 23 คน ส่วน “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าดาวรุ่งจากทีมอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด มีรูปร่างสูงใหญ่ รวดเร็ว เล่นหน้าต่ำ หรือริมเส้นได้ ซึ่งเป็นสไตล์ที่ทีมไทยยังไม่มี เชื่อว่าจะเสริมความแข็งแกร่งของทีมได้
โค้ชซิโก้กล่าวถึงเรื่องเงินอัดฉีดจากการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 30 ล้านบาท และแชมป์คิงส์คัพ 5 ล้านบาทว่า เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย เชื่อว่านักเตะไม่เสียขวัญ เพราะทุกคนมาเล่นเพื่อชาติ โดยเรื่องเงินเป็นส่วนเติมเต็มเท่านั้น
ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีประกาศว่าจากการที่เกิดความผิดพลาดนั้น จะขอให้นักกีฬามารับเช็คได้ใหม่ วันที่ 21 สิงหาคม ที่โรงแรมดิ เอ็มเมอรัลด์ โดยนำเอาเช็คเก่าส่งคืนกับสมาคมฯในวันดังกล่าว
