ยูเซน โบลต์ ยอดนักวิ่งจาเมกา คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์เหรียญที่ 9 แต่เป็นเหรียญที่ 3 ในกรีฑาโอลิมปิก 2016 หรือรีโอเกมส์ 4×100 เมตรชาย ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม
ยูเซน โบลต์ (AFP)
ทีมลมกรดจาเมกาแชมป์เก่า 3 สมัยหลังสุด และเป็นเจ้าของสถิติโลก 36.84 วินาที ส่ง 4 นักวิ่งลงแข่งรอบชิงเหรียญทองไม้ 1 อซาฟา พาวล์, ไม้2 โยฮัน เบล๊ก, ไม้ 3 นิคเคล แอชเมียด์ และไม้ 4 ยูเซน โบลต์ ส่วนสหรัฐอเมริกา อีกหนึ่งทีมเต็งไม้ 1-4 ไมก์ ร็อดเจอร์ส, จัสติน แกตลิน, ไทสัน เกย์ และเทรย์วอน บรอมเมล
(จากซ้ายไปขวา) โยฮัน เบล๊ก, นิคเคล แอชเมียด์, อซาฟา พาวล์ และโบลต์ (AFP)
ปรากฏว่า โบลต์ และเพื่อนร่วมชาติจาเมกาเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ตามคาด 37.27 วินาที แต่ยังห่างไกลสถิติโลกที่พวกเขาเคยทำไว้ในโอลิมปิกครั้งก่อน 36.84 วินาที ขณะที่เหรียญเงินเป็นญี่ปุ่น 37.60 วินาที และเหรียญทองแดง สหรัฐ แต่เนื่องจากสหรัฐทำฟาวล์ตั้งแต่ไม้ 1 ที่ร็อดเจอร์สส่งต่อให้แกตลิน จึงโดนปรับแพ้ฟาวล์ และเป็นแคนาดาได้เหรียญทองแดงแทนที่เวลา 37.64 วินาที
ทีมวิ่งผลัดสหรัฐช็อกที่ไม่ได้เหรียญ หลังโดนจับแพ้ฟาวล์ (AFP)
จากการได้เหรียญทองที่ 3 ในรีโอเกมส์ครั้งนี้ ส่งผลให้โบลต์ที่จะอายุครบ 30 ปีเต็มวันที่ 21 สิงหาคม หรือพิธีปิดโอลิมปิกในอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการวิ่งในโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัว ได้เหรียญทองโอลิมปิกครั้งละ 3 เหรียญ 3 ครั้งติดรวมเป็น 9 เหรียญทอง เป็นรองเพียงไมเคิล เฟลป์ส ตำนานนักว่ายน้ำสหรัฐ ที่ได้ถึง 23 เหรียญทองในการเป็นนักกีฬาที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกสูงสุดตลอดกาล
ญี่ปุ่นที่เคยเรียกเสียงฮือฮาจากเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2008 ทำได้ดีกว่าเดิมด้วยเหรียญเงินโอลิมปิก 2016 เลยทีเดียว (AFP)
แต่อยู่อันดับ 6 เพราะแม้เจ้าของท่าดีใจ “สายฟ้าฟาด” จะได้ 9 เหรียญทองเท่าอีก 4 ยอดนักกีฬาก่อนหน้านี้ แต่ลาริซ่า ลาตินยาน่า นักยิมนาสติกหญิงจากอดีตสหภาพโซเวียต, ปาโว นูร์มี่ นักวิ่งจากฟินแลนด์, มาร์ก สปิตซ์ นักว่ายน้ำจากสหรัฐ และคาร์ล ลูอิส นักวิ่งจากสหรัฐ แต่ทั้งหมดมีเหรียญเงินมากกว่าโบลต์ที่ยังไม่ได้เคยได้เหรียญเงินเลย