‘บิ๊กเสือ’หาทางลดความกดดันทัพไทย-มั่นใจคว้าทองอลป.หน้า

สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท.

“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลงานนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2016 เริ่มต้นได้ดี จนต้องชื่นชมกีฬายกน้ำหนักว่าเปิดหัวให้ทัพนักกีฬาไทยชนิดสร้างขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม แต่ช่วงกลางๆ การแข่งขันนั้น เหรียญของนักกีฬาไทยนิ่งๆ กระทั่งมาเก็บเพิ่มในช่วงท้ายมหกรรม หลายรายการของนักกีฬาไทยสร้างผลงานไม่เข้าเป้าตามที่คาดหวังไว้ สาเหตุเกิดจากความแตกต่างระหว่างการแข่งขันกีฬาระดับชิงแชมป์เอเชีย, เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ แต่ตอนนั้นเป็นกีฬาเดียว แตกต่างจากมหกรรมใหญ่อย่างเช่นโอลิมปิกเกมส์ ขอบเขตขนาดของเกมอาจจะแตกต่างกัน ทำให้นักกีฬาเกิดความกดดันจากเกมขนาดใหญ่ 28 ชนิดกีฬา และมี 207 ประเทศเข้าร่วม

“ผมเชื่อว่าเสียงเชียร์ในสนามกดดันนักกีฬาไทยไม่ได้มาก แต่เสียงข้างหลังหมายถึงเสียงจากแฟนกีฬาไทยที่เขาต้องแบกความหวังของคนไทยลงแข่งขันนั่นต่างหากที่ทำให้มีผลต่อผลงาน นักกีฬาไทยบางคนไม่เคยเจอแบบนี้ว่าเสียงเชียร์จากคนไทยทำให้เกร็ง นักกีฬาไทยมือ 1 ของโลกแต่ละชนิดกีฬามาไม่ต่ำกว่า 5 คน แต่ผลงานออกมาไม่ดี ซึ่ง กกท.จะกลับไปคุย และหาวิธีการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

นายสกลกล่าวต่อไปว่า ภาพรวมนักกีฬาไทยถือว่าน่าพอใจ ซึ่งก่อนมาแข่งขันตนหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง และเกือบจะได้ 3 เหรียญทองอยู่แล้ว แต่ก็รู้กันดีอยู่แล้วทั่วประเทศว่าเป็นเพราะอะไร อย่างโปรเม (เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟหญิง) ยังบอกเองเลยว่าตอนแรกนึกว่าง่ายๆ แต่แข่งไปแข่งมาเหมือนกอล์ฟระดับเมเจอร์เลย ระดับความกดดันสูงมาก ภาพรวมนักกีฬาไทยทำให้ กกท.ภูมิใจ หลายกีฬาเด็กไทยยังมีอายุน้อยมาก อาทิ เทควันโด ล้วนแต่เป็นนักกีฬาดาวรุ่งทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า วางแผนเตรียมทัพนักกีฬาไทยอย่างไรในการป้องกันเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ 2020 นายสกล ตอบว่า กกท.จะทำแผน 4 ปี เก็บตัวระยะยาว เพื่อโอลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไป แยกจากแผนกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย และจะคุยกันในคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทยว่าจะสร้างเด็กอย่างไรไปสู้ เด็กชุดนี้ยังมีความแข็งแกร่ง หลายคนยังเป็นกำลังหลัก รวมถึงจะมีการเสริมวิทยาศาสตร์การกีฬา และเวชศาสตร์การกีฬามาเต็มรูปแบบ

Advertisement

“ผมเชื่อมั่นว่านักกีฬาไทยจะไม่พลาดเหรียญทองโอลิมปิกในอีก 4 ปีข้างหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น กลุ่มนักกีฬาอายุน้อยๆ ทั้งนั้นที่คว้าเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงได้ จากครั้งนี้ยกน้ำหนักก็ยังแข็งแกร่ง แบดมินตันก็ยังอายุไม่เยอะ ยิงเป้าบินเรื่องอายุไม่น่าเป็นปัญหา อีก 4 ปีข้างหน้าน้องณี (สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบิน) ยังไหวแน่นอน และจะไปแบบจิตใจแข็งแกร่งกว่านี้” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image