‘ลูกหนังไทย’ เดินเครื่องพร้อมจัดคัดบอลโลก ‘บิ๊กอ๊อด’ ย้ำสโมสร-แฟนตั้งการ์ดสูง
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ผ่อนคลายให้การแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพไทยได้มีแฟนบอลสามารถเข้าชมการแข่งขันในสนามได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุนั้น ในขั้นตอนนี้ทางสมาคมกำลังรอข้อกำหนด และคู่มือจัดการแข่งขันของทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ว่าจะมีข้อกำหนดให้ดำเนินการอย่างไร ซึ่งทางสมาคมพร้อมที่จะดำเนินการนโยบายของรัฐบาล, ศบค., กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และ กกท.
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปยังสโมสรฟุตบอลต่างๆ รวมทั้งแฟนบอลด้วยว่า เมื่อรัฐบาลผ่อนปรนให้สามารถเข้าชมได้สนามได้แล้ว ทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือในการระมัดระวัง ป้องกัน และปฏิบัติตามมาตรการคำแนะนำของรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.อย่างเคร่งครัด เพราะว่าเราจะไม่ยอมให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นในสนามฟุตบอล ไม่เช่นนั้นแล้วจะส่งผลกระทบกับวงการฟุตบอลไทยไปอีกนาน
“ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับวงการฟุตบอลนะครับที่ทางรัฐบาล, ศบค. กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, กกท.ได้อนุญาตให้มีแฟนบอลเข้าชมในสนาม ส่วนจะสามารถเปิดให้เข้าชมในสนามได้เมื่อไรนั้น ตอนนี้ที่รออยู่คือ คู่มือจัดการแข่งขัน และข้อกำหนด ซึ่งจะเป็นขั้นเป็นตอนครับ ไม่ใช่ว่าพอ ศบค.ประกาศแล้วสามารถเข้าชมในสนามได้เลย แต่ขั้นตอนคือจะมีข้อกำหนด และคู่มือจัดการแข่งขันที่ออกโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่งต่อให้ กกท. และมาถึงสมาคม ซึ่งจะเป็นผู้นำไปปฏิบัติ” บิ๊กอ๊อดกล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงกรณีที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี ในโปรแกรมนัดที่เหลือว่า ด้วยความกรุณาของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ต้องการสนับสนุนให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ขึ้นในประเทศไทย โดยได้มีการทำหนังสือถึงสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) แสดงถึงความตั้งใจในฐานะรัฐบาลไทยที่พร้อมให้การสนับสนุนสมาคมจัดการแข่งขันขึ้น ซึ่งจากการทำงานคู่ขนานกันไปนั้น ทางสมาคมก็พร้อมในการจัดการแข่งขันครั้งนี้
“ผมเชื่อว่า กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และไทยเรามีศักยภาพพอในการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสสำหรับทีมชาติไทย สร้างความตื่นตัวในวงการกีฬาฟุตบอล สร้างกระแสด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพราะฉะนั้นตรงนี้เราจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่จะได้ หรือไม่ได้นั้น ก็คงจะต้องรอคำตอบจากเอเอฟซีครับ” บิ๊กอ๊อดกล่าวปิดท้าย
