‘บุรีรัมย์’ดึงกุนซือ’เซิร์บ’กู้วิกฤต-‘เนวิน’ลั่นแชมป์’ลีกคัพ’+ทวงคืนความยิ่งใหญ่

หลังจาก “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำผลงานไม่เปรี้ยงหมดลุ้นป้องกันแชมป์ศึก “โตโยต้า ไทยลีก 2016” อย่างเป็นทางการแล้ว โดยผ่านพ้นเกมเตะ 28 นัด มี 52 แต้ม บุรีรัมย์รั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูงอย่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ 19 แต้ม และตามหลังอันดับ 2 อย่าง “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด 16 แต้ม ซึ่งสโมสรเพิ่งตัดสินใจแยกทางกับอัฟชิน ก็อตบิ กุนซือชาวอิหร่านไปเมื่อเร็วๆ นี้นั้น
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แถลงผ่านเพจสโมสรใจความดังนี้

 

เรียน แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคารพ ทุกท่าน

ปีนี้เป็นปีที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับผม เพราะเป็นปีที่ผมตั้งความหวังไว้มากว่าเราน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่กลับเป็นปีที่เราโชคร้ายมากที่สุด

Advertisement

นักฟุตบอลของเราบาดเจ็บมากจนเกินกว่าที่นักฟุตบอลที่เหลืออยู่จะพาทีมไปสู่จุดหมายที่เราตั้งความหวังไว้ได้ นำมาสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ทั้งหนักและเบา ซึ่งผมน้อมรับทุกประการ สำหรับความเห็นและข้อเสนอแนะของแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และหลายๆ คำแนะนำ ผมจะนำไปใช้พัฒนา ปรับปรุงทีมของเราต่อไป

การไม่สามารถรักษาแชมป์ไทยลีกและแชมป์เอฟเอคัพไว้ให้กับแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ เป็นสิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุด ที่มากไปกว่านั้น คือ ทำให้แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องผิดหวัง

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ ลมหายใจของผม เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามว่า เมื่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นแบบนี้ ผมจะเป็นแบบไหน

Advertisement

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะยืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะชนะ หรือเสมอ หรือแพ้ ผมก็จะยืนอยู่ตรงนื้ ไม่ว่าจะมีแฟนบอลกี่คน ผมก็จะอยู่กับลมหายใจของผมตลอดไป จนกว่าผมจะหมดลมหายใจ

6 ปีที่ผ่านมา เราได้ 20 แชมป์ ทุกคนในทีมก็มีส่วนร่วมกับรางวัลและได้รับเกียรติยศกันถ้วนหน้า

ปีนี้ เราพลาดเสียแชมป์ไปแล้ว 2 แชมป์ ไม่ต้องถามหาความรับผิดชอบจากใคร เพราะทั้งหมดที่ประกอบกันขึ้นเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ ความรับผิดชอบของผมคนเดียว

แต่สิ่งที่ผมต้องทำ ในฐานะผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่การถอย หรือทิ้งทีมไป

ผมต้องเดินหน้า และทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ผมต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รักษาแชมป์ที่เหลืออยู่ คือ โตโยต้า ลีกคัพ ไว้ให้ได้ และ จบฤดูกาลนี้ด้วยอันดับที่ดีที่สุด

ต่อจากนั้น เราจะต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อนำบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับคืนมาสู่การเป็นสโมสรฟุตบอลอันดับ 1 ของประเทศไทย และทวงแชมป์ที่เสียไป กลับมาให้แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้เร็วที่สุด

การเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนทั้ง 2 คนในปีนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ในฐานะที่ผมอยู่กับทีม ทำงานกับโค้ชทั้ง 2 คน มากที่สุดกว่าทุกๆ คน ผมยังคงยืนยันว่า ผมได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทีม แม้ว่าผลของการเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้ผลตามที่ผมตั้งความหวังไว้ก็ตาม

ฟุตบอลไม่ได้มีแค่ 90 นาทีในสนาม ที่แฟนๆ ได้เห็น ได้ดีใจ หรือเสียใจกับผลการแข่งขัน

ก่อนจะเป็น 90 นาทีในสนาม และหลังจาก 90 นาทีในสนามผ่านพ้นไป ผมได้อยู่ ได้เห็น ได้แก้ไข ได้ตัดสินใจทุกๆ วัน กับการทำงานของทุกคน รวมถึงโค้ชและทีมงาน

ผมไม่ได้ตัดสินใจเรื่องต่างๆ เพราะการแข่งขัน และผลการแข่งขันเท่านั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผมเห็นว่าไม่ควรจะนำมาพูดจาในวงกว้าง ก็เหมือนองค์กรต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงคนทำงาน ก็จะไม่นำเหตุผลมาพูด มาเปิดเผยให้บุคคลทั่วไปได้รับรู้ทั่วกัน เพราะเป็นมารยาทของคนทำงาน

การเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง คือ ความเสี่ยง แต่ผมพร้อมจะเสี่ยง และเดินไปข้างหน้า ดีกว่าย่ำอยู่กับที่ เพราะการย่ำอยู่กับที่ เป็นการเสียโอกาสของทีม และจะนำความเสียใจมาสู่แฟนๆ ในที่สุด

การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ผมหวังว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่า ทุกๆ บทเรียน ทุกๆ ประสบการณ์ ที่ได้รับมาตลอด 6 ปีเศษที่ผ่านมา ผมศึกษาและนำมาใช้อย่างระมัดระวังที่สุด แต่ไม่มีใครจะหยั่งรู้อนาคตได้ หากผลการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องใช้ความพยายามกันต่อไป

สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายาม พละกำลังมากเท่าใด ใช้ทรัพยากรมากเท่าใด ผมต้องทำ ต้องทุ่มเท เพื่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นลมหายใจของผม เพื่อแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นมิตรแท้ของผม

ผมพร้อมจะทุ่มเททุกอย่างในชีวิต เพื่อบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และหวังว่าแฟนๆ จะยังคงยืนเคียงข้างกัน ส่งเสียงเชียร์และสนับสนุนทีมของเรา เป็นกำลังใจให้พวกเรากลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง

ด้วยความเคารพ

เนวิน ชิดชอบ
25 สิงหาคม 2559
ทั้งนี้ วันเดียวกัน sport.blic สื่อประเทศเซอร์เบีย รายงานว่า รานโก โปโปวิช อดีตกุนซือเรียล ซาราโกซ่า และเซเรโซ่ โอซาก้า ชาวเซอร์เบีย บรรลุข้อตกลงเป็นกุนซือคนใหม่ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้ามาคุมทีมบุรีรัมย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 6 นัดที่เหลือ
สำหรับ รานโก้ โปโปวิช เป็นอดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟระดับตำนานของสตวร์ม กราซ บิ๊กทีมของออสเตรีย หลังแขวนสตั๊ดผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีม คุมทีมในเจ-ลีก ตั้งแต่ปี 2006 เคยพาทีมเซเรโซ่ โอซาก้า ดวลกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแล้ว 2 นัดในปี 2014 โดยเอาชนะได้ 4-0 และเสมอ 2-2 ก่อนจะไปคุมทีมเรียล ซาราโกซ่า ในลีกเชกุนด้า สเปน แต่ไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นจึงถูกปลดกลางฤดูกาลที่ผ่านมา

รานโก้ โปโปวิช

รานโก โปโปวิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image