ลุกขึ้นสู้ใหม่! ปธ.ค้างคาวไฟ เปิดใจสุดเศร้าร่วงชั้น ลั่นคืนลีกสูงสุดเร็วที่สุด
หลังจากที่ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี กลายเป็นสโมสรที่ 3 ที่ต้องตกชั้นจากศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 หลังจากบุกพ่าย “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี ในเกมสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ สุโขทัย เอฟซี ต้องร่วงไปเล่นในลีกพระรอง ไทยลีก 2 หรือ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลหน้านั้น
ล่าสุด ดร.อนงค์วรรณ เทพสุทิน ประธานสโมสรสุโขทัย เอฟซี เปิดเผยว่า เสียใจกับผลงานที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันนักเตะทุกคน ทีมสต๊าฟที่เสียใจ แต่ความเสียใจที่เกิดขึ้นเราต้องฟื้นตัวให้เร็ว เพื่อวางเป้าหมายในเกมการแข่งขันฤดูกาลที่จะมาถึง อย่างไรก็ดี ขอขอบคุณแฟนบอลสุโขทัย เอฟซี ที่สนับสนุน และติดตามส่งแรงใจ โดยหลังจากที่ผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามเป้าหมาย มีแฟนบอลพลัดถิ่นที่อยู่รอส่ง และให้กำลังใจนักเตะ รวมถึงมีกำลังใจจากทั่วสารทิศ ระดมส่งมาให้จำนวนมาก ซึ่งปราบปลื้มใจที่สุด
“หลังเกมที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทุกคนในทีมเสียใจ เพราะไม่อยากให้สถานการณ์นี้เกิดขึ้น ที่ผ่านมานักเตะทุกคนพยายามและสู้กันมาโดยตลอด แต่เมื่อสิ่งที่ไม่ต้องการได้เกิดขึ้น เราต้องฟื้นตัวให้เร็ว ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ให้เร็วที่สุด โดยยอมรับว่าการแข่งขันในระดับในไทยลีก2 นั้น เป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะต้องแข่งขันกับหลายทีมที่มีเป้าหมายคว้าตั๋วเลื่อนชั้นในฤดูกาลถัดไปเช่นเดียวกัน” ดร.อนงค์วรรณ กล่าว
ประธานทัพค้างคาวไฟกล่าวถึงอนาคตของนักเตะในทีมว่า ได้พูดกับนักเตะแล้วว่า เข้าใจในเป้าหมายของอาชีพที่ต้องการความก้าวหน้า อนาคตของนักเตะหลายคนอยู่ในเส้นทางที่สามารถไปต่อได้ บนเส้นทางลีกสูงสุด ซึ่งมีนักเตะหลายคนบอกว่าจะขออยู่กับสโมสรสุโขทัย เอฟซี เพื่อร่วมกอดคอสู้ พาทีมกลับสู่ลีกสูงสุดให้ได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเส้นทางของสุโขทัยเอฟซี ต่อไปนั้นไม่ง่าย สำหรับคนที่ทำทีมมาเข้าใจว่า มีหลายปัจจัยที่ต้องฝ่าฟันในลีกอาชีพระดับนี้
ดร.อนงค์วรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับสุโขทัย เอฟซี หลังจากที่ได้เลื่อนชั้นมาเล่นบนลีกสูงสุด เมื่อปี 2559 หรือ 5 ปีที่แล้ว พวกเราไม่เคยย้อนกลับไปอีก แต่เมื่อผลงานปีนี้ ทำให้พวกเราต้องกลับไปสู่จุดที่พวกเราเคยผ่านมา ฐานะผู้บริหารสโมสรขอให้คำมั่นว่าพวกเราจะต้องปรับปรุง ร่วมสู้ เพื่อกลับมายืนให้ได้ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรามันรวดเร็วมาก ในฤดูกาล 2020/2021 เลกแรก กับ เลกสอง เหมือนหนังคนละม้วน เลกแรกพวกเราทำได้ดี ส่วนเลกสอง พวกเราพยายามปรับปรุง แต่ยังมีส่วนที่ขาด มีความไม่สมบูรณ์ ต้องปรับปรุงเกือบทุกตำแหน่ง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหารและส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องนำไปวิเคราะห์ แก้ไข และปรับปรุงทีมให้ดีขึ้นกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดจากนี้ ขอขอบคุณแฟนบอลสุโขทัยเอฟซีทุกคนที่ติดตามและคอยสนับสนุนไม่ทอดทิ้งกันไปไหน” ประธานสุโขทัย กล่าวทิ้งท้าย
