ความเคลื่อนไหวทัพจอมเตะเทควันโดทีมชาติไทยหลังประสบความสำเร็จคว้ามาได้ 1 เหรียญเงินจาก “เจ้าเทม” เทวินทร์ หาญปราบ นักเทควันโดดาวรุ่งวัย 18 ปี และ 1 เหรียญทองแดงจาก “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ อดีตแชมป์โลกวัย 19 ปี เวลานี้ยังคงเดินสายออกงานและรับเงินกันอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดในส่วนของ “เจ้าเทม” เทวินทร์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้คงต้องไปตามเรียนหนังสือให้ทันเพื่อนๆ ที่คณะ เพราะเวลานี้ตัวเองศึกษาอยู่ชั้นปี 1 คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาขาดเรียนมานานหลายเดือน เพราะมัวแต่ทุ่มเทให้กับการฟิตซ้อมกีฬาเทควันโดอย่างเต็มที่ จนประสบความสำเร็จกลับมายิ่งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งทางอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ที่สอนอยู่ก็ให้ความเอ็นดูและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ตัวเองต้องเสียสละทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ แต่หลังจากนี้คงจะมีเวลาให้กับการศึกษามากยิ่งขึ้น เพื่อต้องการสำเร็จในระดับปริญญาตรีให้เร็วที่สุด เพราะส่วนตัวตอนแรกที่เข้ามาศึกษาในคณะนี้นั้น เพื่อต้องการอยากเป็นทูตระหว่างประเทศ เนื่องจากเกรดเฉลี่ยของตัวเองตอนศึกษาจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบ ปทุมธานี ในสายวิทย์ฯนั้นได้ 3.26 จึงใช้ความสามารถพิเศษทางด้านกีฬาเข้ามาสอบในคณะนี้ จากจำนวนนักกีฬาทีมชาติที่เข้ามาสมัครเป็น 100 คน ตัวเองสามารถติดเป็น 1 ใน 2 คนสุดท้ายกับนักว่ายน้ำอีกคนได้ แต่ใจจริงแล้วทางครอบครัวอยากให้ตัวเองนั้นสอบเป็นนายร้อยตำรวจ ทั้งนี้ที่ผ่านมาตอนศึกษาในระดับ ม.4 และ ม.5 ตัวเองก็เคยจะไปสอบที่โรงเรียนเตรียมนายร้อยตำรวจ สามพราน จังหวัดนครปฐม แล้ว ด้วยการอ่านหนังสือตำราต่างๆ เป็นเวลานานพอสมควร แต่เนื่องจากในช่วงเวลานั้นติดการแข่งขันเทควันโดรายการต่างๆ ในระดับเยาวชนของประเทศและการแข่งขันนานาชาติ จึงต้องเลิกล้มความตั้งใจไป แต่ก็เก็บความรู้สึกนี้มาตลอด เพื่อต้องการเดินตามรอยฝันของตัวเองในวัยเด็กและครอบครัวด้วย
เทวินทร์ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามในเวลานี้ตัวเองได้เห็นนักกีฬา “ฮีโร่” ที่ประสบความสำเร็จมีเหรียญโอลิมปิก ได้มีอาชีพและหน้าที่การงานอันมั่นคงในการรับราชการทั้งทหารและตำรวจ ส่วนตัวหากเป็นไปได้ก็อยากขอเข้ารับราชการตำรวจบ้าง เนื่องจากพื้นฐานทางด้านกีฬาต่อสู้ของตัวเองถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อีกทั้งความรู้ในเรื่องการศึกษาทางด้านต่างๆ อยู่ในระดับพอใช้ได้ หากมีโอกาสก็อยากเดินตามรอยฝันของครอบครัวเพื่อรับราชการตำรวจในอนาคตข้างหน้านี้ พร้อมกันนี้ก็อยากวิงวอนและความอนุเคราะห์ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วย เพื่อจะได้นำวิชาความรู้มาปกป้องดูแลประชาชนและพิทักษ์สันติราษฎร์ต่อไป
ขณะที่นายยศสรัล กับนางนิศาภัทญ์ หาญปราบ คุณพ่อและคุณแม่ของเทวินทร์กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นความใฝ่ฝันของครอบครัวมานานแล้วอยากให้เทวินทร์รับราชการตำรวจ เพราะเขาเป็นคนตรงไปตรงมาและชอบความยุติธรรม อีกทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงานจะทำให้ครอบครัวพึ่งพาได้ ที่ผ่านมาก็เคยพยายามจะเอาลูกชายไปสอบแล้ว แต่เนื่องจากติดแข่งขันและฟิตซ้อมเทควันโดในนามทีมชาติไทย จึงทำให้ไม่มีโอกาส และในครั้งนี้ถ้าหากมีโอกาสก็อยากให้ลูกได้เป็นตำรวจสมใจ ทั้งนี้ทางครอบครัวให้การสนับสนุนเต็มที่
