ทัพนักเตะทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 19 ปี ตบเท้าเข้ารายงานตัวฝึกซ้อมกับ “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมคนใหม่ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพิ่งแต่งตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่คุมทีมแทน “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล และนายสมบัติ แสงชาติ ผู้จัดการทีมรุ่นไม่เกิน 19 ปี ที่ห้องราชาวดี ชั้น 2 อาคารกอล์ฟ คลับ สโมสรราชพฤกษ์ วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 1 กันยายน เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทีมทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2016” ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 11-24 กันยายนนี้ โดยทีมไทยมี ดีกรีแชมป์ 4 สมัย และแชมป์เก่า อยู่ในกลุ่มบีร่วมกับ ลาว, พม่า, ออสเตรเลีย, กัมพูชา และอินโดนีเซีย
โค้ช จุ่นกล่าวว่า ทีม 19 ปีได้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่เอเอฟเอฟได้ส่งหนังสือมาตำหนิสมาคมกีฬา ฟุตบอลไทยฯ จากการเข้าร่วมศึกเมียนมาร์ อินวิเตชั่นแนล คัพ 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องวินัยในสนามและนอกสนามของนักเตะไทย ทำให้ทาง พล.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้เรียกตนเข้าไปรับมอบนโยบาย ซึ่งจะเน้นเรื่องวินัยเป็นหลักทั้งในสนามและนอกสนามให้เหมือนกับทีมชุดใหญ่ ที่เป็นตัวอย่างเรื่องวินัย และมารยาททีดี ซึ่งทีม 19 ปีจะเร่งแก้ไขปรับปรุงข้อผิดพลาด ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุด และไม่เลือกว่ามาจากสโมสรใด พร้อมกับสร้างทีมชุดนี้ไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือการไปฟุตบอลโลก
โค้ชจุ่น กล่าวว่า จะเร่งเปลี่ยงแปลงทัศนคติในการเล่นทีมชาติของเด็กชุดนี้ โดยจะเข้มเรื่องกฏระเบียบวินัย และความตรงต่อเวลา ซึ่งการรายงานครั้งนี้ “โก้” สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ไม่มารายงานตัวตรงต่อเวลาก็คงจะต้องพูดคุยกัน ส่วนนักเตะจากทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้น นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรได้ขอตัวไว้ใช้งานกับต้นสังกัดในเกมลีก สำหรับการเตรียมทีมมีเวลาแค่ 7 วัน โดยตนได้ดึงทีมงานมาช่วย ประกอบด้วย นิรุจน์ สุระเสียง, พัฒนพงศ์ ศรีปราโมช, มาฆะ หอประเสริฐสุข, กิตติศักดิ์ ระวังป่า, เจริญ กลมเกลี้ยง และดึงตัว เซร์คิโอ้ เปเรซ นักกายภาพบำบัดชาวสเปนบินมาช่วยดูแลทีม ซึ่งทีมจะเก็บตัวที่กรุงเทพฯ 3 วัน ก่อนเดินทางไปเก็บตัวที่กิเลน วัลเลย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วันที่ 5 กันยายนนี้ และออกเดินทางไปเวียดนาม วันที่ 9 กันยายน
“เรามีเวลาซ้อม 10 มื้อ และจะมีการเตรียมทีมทีดีที่สุด เพื่อป้องกันแชมป์อาเซียน โดยจะเน้นเรื่องวินัย ถ้าใครไม่มีวินัยคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ผมสร้างทีมชุดนี้ขึ้นมาเพื่อเจอกับออสเตรเลียในชิงแชมป์อาเซียนครั้งนี้ รวมถึงจะไม่ประมาทเวียดนามและพม่าที่เตรียมตัวมาดี ทำให้จะต้องทำงานกันอย่างหนัก” โค้ชจุ่นกล่าว
ด้านนายสมบัติกล่าวว่า จากทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องที่ประเทศพม่า ทำให้ได้เรียนรู้ และเข้าใจฟุตบอลมากขึ้น ได้เห็นจุดดี และจุดด้อย ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เพราะความสามัคคี ทำให้ตนได้หารือกับโค้ชจุ่นในการปรับปรุงทีมตามแนวทางที่นายกสมาคมฯมอบหมาย ให้ดูแลทีม ซึ่งจะพยายามทำให้นักเตะมีร่างกายสูงใหญ่, คนไทยชมเกมแล้วมีความสุข, นำทีม 19 ปีไปสู่เวทีฟุตบอลโลก และนำวัฒนธรรมไทยทีดีงามมาใช้ในสนามด้วย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่