“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ประเดิมสนามศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดแรก พบกับซาอุดีอาระเบีย ที่สนามคิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชันแนล กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 1 กันยายน
เกมนี้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย จัดชุดใหญ่ลงสนามมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แบ๊กขวา ทริสตอง โด แบ๊กซ้าย “กัปตันอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ กรวิทย์ นามวิเศษ มิดฟิลด์ให้ สารัช อยู่เย็น เป็นตัวรับ โดยมีปกเกล้า อนันต์ กับ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ คอยเปิดเกมรุกร่วมกัน ขณะที่แดนหน้า ฝั่งขวาเป็นมงคล ทศไกร ฝั่งซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และกองหน้าตัวเป้า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา
ด้าน ซาอุดีอาระเบีย ของกุนซือ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ไม่ส่งชื่อมูฮัมหมัด อัล ชะห์ลาวี กองหน้าวัย 29 ปี ดาวซัลโวของรอบคัดเลือก 14 ประตู ลงสนาม โดยใช้แผน 4-5-1 นำโดย ยัสเซอร์ อัล โมไซเล็ม เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง มาซูร์ อัล ฮาร์บี้, โอซามา ฮาว ซาวี (กัปตันทีม), โอมาร์ อิบราฮิม โอธมาน, ฮัสซาน ฟาลลาตาห์ กองกลาง ซาลมาน อัลฟาราจ, อับดุลมาเล็ค อัลไคบรี, ซลมาน มูวาชาร์, ไทเซียร์ อัล ยาสซิม, นาวาฟ อลาบิด โดยมีนาอิฟ ฮาซาซี่ เป็นกองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกมไทยพยายามตั้งเกม ก่อนมาได้โอกาสครั้งแรกในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่เกริกฤทธิ์ จ่ายให้ธีราทร ก่อนปาดให้ธีรศิลป์ ได้ลองยิงจากนอกกรอบ แต่ยังตรงตัวนายทวารซาอุฯ
นาทีที่ 19 ไทยน่าจะได้จุดโทษจากจังหวะที่ธีรศิลป์โดนทำฟาวล์ แต่ผู้ตัดสินให้เป็นฟรีคิกนอกเขตโทษ แต่สารัชยิงไปติดกำแพง
จากนั้นเป็นซาอุฯที่เริ่มครองบอลเปิดเกมบุกเข้าหาทีมไทย แต่ไทยยังช่วยกันเล่นเกมรับได้เหนียวแน่น จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 4 นาที ชนาธิปได้โอกาสพลิกบอลจากแดนกลาง ก่อนจ่ายเรียดยาวให้ธีรศิลป์ พาบอลเข้าเขตโทษได้ยิง แต่ยังเข้าซองของยัสเซอร์ อัล โมไซเล็ม
นาทีที่ 60 ไทยน่าได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ธีราทร เปิดจากด้านซ้ายให้ธีรศิลป์สอดขึ้นมาโหม่งเต็มๆ แต่นายทวารซาอุฯยังซุปเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้
นาทีที่ 63 ไทยเปลี่ยตัวคนแรกส่งสราวุฒิ มาสุข ลงมาเล่นแทนมงคล
ถัดมา 8 นาที ไทยเปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่งธนา ชะนะบุตร ลงมาแทนเกริกฤทธิ์
นาทีที่ 81 ไทยมาเสียลูกที่จุดโทษจากจังหวะที่สารัชไปเข้าด้านหลังใส่ ฟาฮัด อัลมูวาลาด และเป็นนาวาฟ อลาบิด สังหารไม่พลาดให้ซาอุฯขึ้นนำไทย 1-0
จากนั้นไทยเริ่มเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกบ้างทันที และเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่งชาริล ชัปปุยส์ ลงมาแทนปกเกล้า
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บไทยส่งบอลเข้าตุงตาข่ายได้ จากจังหวะที่ชนาธิปวางบอลให้ทริสตองได้โหม่งเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน จบเกมไทยแพ้ซาอุดีอาระเบีย 0-1 หลังจากผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา สารัชเข้าไปขอคำอธิบายจากผู้ตัดสิน ก่อนจะถูกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ทำให้พลาดการลงสนามในนัดต่อไป
โดยนัดต่อไปไทยจะเปิดราชมังคลากีฬาสถาน รับการมาเยือนของ ญี่ปุ่น ที่นัดแรกพ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มา 1-2 เช่นกัน ในวันที่ 6 กันยายน เวลา 19.15 น.
