ต่อไปคง‘โกง’กันยาก! ‘ฟีฟ่า’พอใจเริ่มทดลองใช้ ‘ภาพช้า’ ตัดสินเกมอุ่นแข้งฝรั่งเศสชนะอิตาลี (มีคลิป)

จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่า (AFP)

หลังเกิดเหตุการณ์ “คาใจ” แฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดแรก ที่ทีมชาติไทยบุกแพ้ซาอุดิอาระเบีย 0-1 เมื่อวันที่ 1 กันยายน

จากลูกจุดโทษปัญหาที่ฟู หมิง ผู้ตัดสินชาวจีน เป่าให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น หลัง “เจ้าตัง” สารัช อยู่เย็น นักเตะไทยใช้เท้าแย่งบอลผู้เล่นซาอุดิอาระเบียที่อยู่ในกรอบเขตโทษจากทางด้านหลัง จนอีกฝ่ายล้มลง และกลายเป็นจุดโทษที่คู่แข่งยิงเข้าไปเป็นประตูชัยในช่วง 6 นาทีสุดท้าย

รวมทั้งยังมีจังหวะที่ทีม “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทัพของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง น่าจะได้จุดโทษถึง 2 ครั้ง ซึ่งล้วนเกิดขึ้นกับ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา เพื่อนร่วมสโมสร “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ของสารัชทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นการโดนยาสเซอร์ อัล โมไซเลม ผู้รักษาประตูซาอุดิอาระเบีย ทำฟาวล์ในจังหวะก้ำกึ่งระหว่างนอก และในเขตโทษ เช่นเดียวกับที่ธีรศิลป์โดนแนวรับคู่แข่งใช้ตัวขวางไม่ให้วิ่งเข้าหาบอลในเขตโทษ

Advertisement

ล่าสุด แม้ไทยจะยื่นประท้วงต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เจ้าของการแข่งขันฟุตบอลโลก แต่ไม่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ก็ตาม ทว่ากองเชียร์ไทยคงเริ่มมีความหวังกับการได้รับการตัดสินจากผู้ตัดสินที่ “ยุติธรรม” มากขึ้น

หลังจานนี่ อินฟานติโน่ ประธาน “ฟีฟ่า” คนใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนผลักดันให้นำภาพช้าวิดีโอช่วยในการตัดสินให้ถูกต้องมากขึ้น และเคยประกาศว่าอยากให้การทดลองใช้ภาพช้าผ่านพ้นไปด้วยดีจนทันศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายในอีกไม่ถึง 2 ปีเต็มข้างหน้าที่ประเทศรัสเซีย ยอมรับว่ารู้สึกพอใจกับการใช้ภาพช้าในเกมระดับชาติครั้งแรกที่ฝรั่งเศส รองแชมป์ยูโร 2016 บุกชนะอิตาลี 3-1 กับแมตช์อุ่นเครื่องที่เมืองบารี ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 1 กันยายน ซึ่งอินฟานติโน่ลงทุนไปชมการทำงานดังกล่าวด้วยตัวเอง

โดยผู้ตัดสินสามารถขอให้ทีมงานที่ดูภาพช้าข้างสนาม ดูภาพช้าเพื่อให้คำตอบผ่านหูฟัง หรือผู้ตัดสินสามารถไปดูภาพช้าเองที่ข้างสนามได้ ส่วนการดูภาพจะต้องเกิดขึ้นเฉพาะจังหวะการทำประตู, การให้จุดโทษ, การให้ใบแดง และการให้ใบแดงผิดคน

Advertisement

ปรากฏว่า บียอร์น ไกเปอร์ส ผู้ตัดสินจากเนเธอร์แลนด์ ในเกมดังกล่าว ได้รับการช่วยเหลือทีมงานภาพช้าข้างสนามในจังหวะสำคัญต่อรูปเกมถึง 2 ครั้ง

เริ่มด้วยเหตุการณ์แรกตั้งแต่นาทีที่ 3 หลังดานิเอเล่ เด รอสซี่ กองกลางอิตาลี ถูกฌิบริล ซิดิเบ้ แนวรับที่ลงเล่นให้ฝรั่งเศสครั้งแรก เสียบสกัดแบบน่าเกลียด ซึ่งจอร์โจ้ คิเอลลินี่ เพื่อนร่วมทีมเด รอสซี่ ได้กดดันคุยเปอร์สด้วยการโวยวายว่าซิดิเบ้ต้องโดนไล่ออก แต่หลังไกเปอร์สได้รับคำแนะนำจากทีมงานข้างสนามที่ดูภาพช้าแล้ว กลับให้แค่ใบเหลืองเท่านั้น

5 นาทีต่อมา ทีมงานภาพช้าต้องทำงานอีกครั้ง จากจังหวะที่เด รอสซี่ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์อีกเช่นกัน ได้โหม่งลูกฟรีคิกในกรอบเขตโทษ และดูเหมือนว่าบอลจะไปโดนมือของเลย์วิน เคียวซาว่า แบ๊กซ้ายฝรั่งเศส ก่อนไกเปอร์สจะได้รับคำตอบจากทีมงานภาพช้าว่าบอลไม่ได้โดนมือ จึงไม่เป็นจุดโทษ

https://youtu.be/jbpcdWgLddA

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image