ทีม “กระทิงดุ” สเปน ซึ่งเสียฟอร์มตกแค่รอบแรก หรือรอบแบ่งกลุ่มในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่บราซิล ทั้งที่เป็นถึงแชมป์เก่าจากปี 2010 ก่อนจะตกแค่รอบน็อกเอาต์รอบแรก หรือรอบ 16 ทีมในยูโร 2016 ที่ตัวเองเป็นแชมป์เก่า 2 สมัยหลังสุด เริ่มคืนฟอร์ม “ดุ” สมชื่อเหมือนยุคกวาด 3 แชมป์ติดอย่างยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010 และยูโร 2012 ด้วยการเปิดบ้านถล่มชาติรองบ่อนลิกเตนสไตน์ 8-0 ภายใต้การทำทีมของยูเลน โลเปเตกี กุนซือคนใหม่ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มจี นัดแรก เมื่อวันที่ 5 กันยายน
เจ้าถิ่นได้ 8 ประตูจากดีเอโก้ คอสต้า ดาวยิงชาวบราซิล แต่เลือกเล่นให้สเปนนาทีที่ 10, 66, แซร์จี้ โรเบร์โต้ นาที 55, ดาบิด ซิลบา นาที 59, ทดเจ็บ, บีโตโล่ นาที 60, อัลบาโร่ โมราต้า นาที 82 และ 83 จบเกม โลเปเตกีที่นำทัพสเปนคว้าชัยในเกมอย่างเป็นทางการครั้งแรก หากไม่นับเกมอุ่นเครื่องก่อนหน้านี้ที่บุกชนะเบลเยียม 2-0 ยืนยันว่า แม้ลูกทีมจะทำประตูได้แค่ลูกเดียวในครึ่งแรก แต่ตัวเองกลับมองว่าฟอร์มการเล่นใน 45 นาทีแรกมีส่วนสำคัญกับการยิงได้อีก 7 ประตูใน 45 นาทีต่อมา นอกจากนี้ การออกสตาร์ตด้วยชัยชนะ และ 3 คะแนนยังเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งอีกด้วย
ดีเอโก้ คอสต้า กด 2 เม็ด (AFP)
จากชัยชนะในเกมนี้ ส่งผลให้สเปนที่แม้จะมี 3 คะแนนเท่าอิตาลี ซึ่งบุกชนะอิสราเอล 3-1 จากผลงานของโค้ชใหม่เหมือนกัน แต่วัยดึก 68 ปีจามเปียโร่ เวนตูร่า แต่ทีมกระทิงดุขึ้นนำเป็นจ่าฝูงด้วยผลต่างประตูได้เสียที่บวกถึง 8 ลูก ขณะที่ทีม “อัซซูรี่” มีผลต่างบวกแค่ 2 ลูก โดยมีเพียงแชมป์กลุ่มหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้สิทธิผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่รัสเซียแบบอัตโนมัติ ส่วนรองแชมป์กลุ่มต้องลุ้นเป็นรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุดภายใน 8 ทีมจากทั้งหมด 9 กลุ่มของโซนยุโรป เพื่อเล่นเกมเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือน เพื่อหาอีก 4 ทีมตามแชมป์กลุ่ม 9 ชาติเข้ารอบต่อไป
ส่งผลให้อดีตโค้ชเอฟซี ปอร์โต้ ที่เพิ่งฉลองวันเกิด 50 ปีเต็ม 8 วันก่อนหน้านี้ มีความเห็นในเกมรอบคัดเลือกนัด 2 สุดสำคัญที่สเปนต้องไปเยือนอิตาลี หรือชาติที่เขี่ยพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโรครั้งล่าสุดในวันที่ 6 ตุลาคมอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าว่า เป็นแค่อีกหนึ่งเกมที่มีคะแนนให้ 3 แต้มเท่านั้น เช่นเดียวกับการเป็นแค่ 1 ใน 10 เกมรอบคัดเลือก ยังไม่ใช่เกมที่ชี้ชะตาว่าใครจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายแต่อย่างใด
ทีมชาติสเปนชุดถล่มลิกเตนสไตน์ (AFP)
ผลอีกคู่กลุ่มเดียวกัน ระหว่างอัลเบเนียเจ้าบ้าน กับ มาซิโดเนีย ปรากฏว่า เกมต้องหยุดลงในนาทีที่ 76 เนื่องจากฝนตกอย่างหนัก และต้องกลับมาแข่งต่อในอีก 14 นาทีที่เหลือในวันถัดมาที่ 6 กันยายน
ผลกลุ่มอื่น
กลุ่มดี เวลส์ ชนะ มอลโดวา 4-0, เซอร์เบีย เสมอ ไอร์แลนด์ 2-2, จอร์เจีย แพ้ ออสเตรีย 1-2
กลุ่มไอ โครเอเชีย เสมอ ตุรกี 1-1, ยูเครน เสมอ ไอซ์แลนด์ 1-1, ฟินแลนด์ เสมอ โคโซโว 1-1
