ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่สอง หลังจากเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน แพ้ “ซามูไรบลู” ทีมชาติญี่ปุ่น 0-2 เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา โดยโปรแกรมนัดต่อไปจะบุกเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันที่ 6 ตุลาคม และบุกเยือนอิรัก ที่สนามกลางประเทศอิหร่าน วันที่ 11 ตุลาคมนั้น
ทั้งนี้ จากความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยต่อญี่ปุ่น 0-2 รวมถึงผลงานอีก 2 นัดในรอบเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคือ บุกแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 0-1 และบุกอุ่นเครื่องพ่าย กาตาร์ 0-3 ทำให้ทีมชาติไทยพ่าย 3 นัดรวด จึงส่งผลต่อการจัดอันดับโลกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประจำเดือนกันยายน ซึ่งจะประกาศวันที่ 15 กันยายนนี้
ปัจจุบันทีมชาติไทยมีคะแนนสะสมอยู่ 305 คะแนน อยู่อันดับที่ 120 ของโลก แต่จากความพ่ายแพ้ 3 นัด ทำให้คะแนนในเดือนหน้าจะลดลงมาเหลือ 246 คะแนน และคาดว่าอันดับจะตกลงมาไม่ต่ำกว่า 10 อันดับ ทำให้ทีมชาติไทยจะเสียหมายเลขหนึ่งอาเซียนให้ฟิลิปปินส์อีกครั้ง โดยที่ฟิลิปปินส์จะขยับแต้มจาก 256 คะแนน ขึ้นมาเป็น 296 คะแนน หลังล่าสุดบุกอุ่นเครื่องชนะคีร์กิซสถาน 2-1
“ซิโก้” นายเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า สำหรับแผนการเตรียมทีมนัดต่อไปที่ทีมชาติไทยมีคิวบุกเยือนยูเออี และอิรักนั้น ได้วางแผนงานคร่าวๆ ไว้ว่าเตรียมจะเดินทางไปยูเออี วันที่ 1 ตุลาคม เพื่อให้นักเตะปรับสภาพร่างกายให้คุ้นเคยกับสภาพอากาศท้องถิ่น อีกทั้งวางแผนไว้ว่าเราจะได้ลงฝึกซ้อม 4 วันก่อนลงแข่งขันกับยูเออี ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะมีโอกาสให้ปรับจูนแทคติคกันอย่างเข้มข้นต่อไป
กุนซือทีมชาติไทยกล่าวว่า หลังจากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นเกมกับยูเออี วันที่ 6 ตุลาคมแล้วจะปักหลักอยู่ที่นั่นอีกสักระยะ โดยเราจะฝึกซ้อมที่ยูเออีต่อไป เพื่อไม่ให้คู่แข่งอย่างอิรักได้เห็นกลยุทธ์แทคติคของทีมมากนัก หลังจากนั้นทีมไทยจะเดินทางเข้าอิหร่าน ก่อนที่จะลงเล่นกับอิรักล่วงหน้า 3 วัน ซึ่งเราจะทำแบบเดียวกับตอนที่บุกไปเยือนซาอุดีอาระเบีย แต่ทั้งนี้ก็จะหารือกับทีมงานอีกครั้งด้วย
