‘ปาเกียว’ไม่เลิกตื๊อแก้มือ‘ฟลอยด์’ เที่ยวนี้ยั่วอีกฝ่าย‘หน้าเงิน-ไม่แคร์แฟนมวย’!

แมนนี่ ปาเกียว (ขวา) และฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ (แฟ้มภาพ AFP)

แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักมวยฟิลิปปินส์ ที่เปลี่ยนใจกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งกับเจสซี่ วาร์กาส ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทั้งที่เพิ่งประกาศอำลาวงการหลังไฟต์ชนะคะแนนทิโมธี แบร๊ดลีย์ วันที่ 9 เมษายน ยังไม่เลิกความพยายามในการต่อยกับฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อีกหนึ่งตำนานมวยโลกชาวสหรัฐ อีกครั้ง แม้ฝ่ายหลังจะแขวนนวมไปแล้วเมื่อหนึ่งปีก่อนก็ตาม

ปาเกียวที่จะอายุมากถึง 38 ปีเต็มอีกแค่ 3 เดือนข้างหน้า เคยพ่ายคะแนนแบบเอกฉันท์ให้กับเมย์เวทเธอร์ซึ่งมีอายุแก่กว่า 2 ปี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 แต่ให้สัมภาษณ์หลังจบไฟต์ในช่วงแรกแบบไม่ยอมรับคำตัดสิน และอีกฝ่ายไม่ยอมให้โอกาสแก้ตัวมาจนถึงทุกวันนี้ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างงานแถลงข่าวการชกกับวาร์กาสเมื่อวันที่ 8 กันยายน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการต่อยกับเมย์เวทเธอร์เป็นครั้งที่ 2 ว่า

ถ้าแฟนมวยอยากเห็นตน และเมย์เวทเธอร์ชกกันอีกครั้ง แล้วเมย์เวทเธอร์ก็อยากจะชกช่วย ตนก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทว่าทุกคนต่างรู้ดีว่าเมย์เวทเธอร์ที่มีหนึ่งในฉายาว่า “เดอะ มันนี่” ไม่เคยแคร์ใครอยู่แล้ว แม้กระทั่งแฟนมวย เขาแคร์อยู่อย่างเดียวก็คือเรื่องเงิน ผิดกับตนที่ไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย เพราะอยากทำให้แฟนๆ สนุกไปกับการชกบนเวทีมากกว่า

สำหรับไฟต์ “หยุดโลก” ระหว่างเมย์เวทเธอร์กับปาเกียวเมื่อ 16 เดือน ได้รับการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญว่า มีสิทธิทำรายได้รวมสูงสุดในประวัติศาสตร์วงการมวยเกือบ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (21,000 ล้านบาท / อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ 35 บาท) และเมย์เวทเธอร์ได้รับส่วนแบ่งถึง 220-230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (7,700-8,050 ล้านบาท) ส่วนปาเกียวได้เงิน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5,250 ล้านบาท)

Advertisement

นอกจากนี้ เจ้าของฉายา “เดอะ แพ็คแมน” ยังย้ำอีกว่า แม้ตัวเองจะเคารพผลการตัดสินของกรรมการที่ให้คะแนนในไฟต์แพ้เมย์เวทเธอร์ แต่ถ้ามีคนถามตนว่าใครเป็นผู้ชนะในวันนั้น ตนก็ยังเชื่อเหมือนเดิมว่า ตัวเองคือผู้ชนะในไฟต์นั้นอย่างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image