ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 นัดที่ 4 เมื่อวันที่ 10 กันยายน คู่เอกเป็นเกม “ดาร์บี้แมตช์” เมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าถิ่น เปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดรับการมาเยือนของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง ซึ่งทั้งคู่ต่างคว้าชัยร้อยเปอร์เซ็นต์จาก 3 เกมแรก จนมี 9 คะแนนเท่ากันก็จริง แต่แมนฯ ซิตี้ มีผลต่างประตูได้เสียบวก 6 ลูก มากกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด 1 ลูก
เควิน เดอ บรอยน์ (กลาง / AFP)
นอกจากนี้ ยังเป็นการพบกันของ 2 ยอดกุนซือแห่งยุคอย่างโจเซ่ มูรินโญ่ กับ โจเซ็ป “เป๊ป” กวาร์ดิโอล่า ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่แมนฯ ยูไนเต็ด และแมนฯ ซิตี้ ตามลำดับอีกด้วย หลังทั้งคู่เคยตกเป็นข่าวบาดหมางกันตั้งแต่สมัยคุม 2 ยักษ์ใหญ่ในศึกลาลีก้า สเปน ด้วยกัน ซึ่งในช่วงเวลาอดีตดังกล่าว “เป๊ป” ที่คุมบาร์เซโลน่าระหว่างปี 2008-2012 สามารถพาทีม “เจ้าบุญทุ่ม” คว้าแชมป์รายการสำคัญได้มากถึง 14 ครั้ง กลบรัศมีมูรินโญ่ที่เป็นโค้ชให้รีล มาดริด ปี 2010-2013 จนฝ่ายหลังทำทีม “ราชันชุดขาว” ได้แชมป์แค่ 3 ครั้งเท่านั้น
เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ (กลาง / AFP)
ส่วนผลเกมนี้ปรากฏว่า แมนฯ ซิตี้ ของเป๊ปบุกคว้าชัย 2-1 ซึ่งทั้ง 2 ประตูที่ทีมเยือนได้ ล้วนมาจากความผิดพลาดของดาลีย์ บลินด์ กองกลางสารพัดประโยชน์ที่เล่นในตำแหน่งกองหลังได้ เริ่มจากจังหวะที่บลินด์ปล่อยให้เควิน เดอ บรอยน์ ฉกบอลกระชากเข้าไปยิงตั้งแต่ 15 นาทีแรก ตามด้วยการยิงชนเสาของเดอ บรอยน์ กระเด้งมาเข้าทางเคเลชี่ อีเฮียนาโช่ ซ้ำเข้าไปในอีก 21 นาทีถัดมา โดยบลินด์วิ่งกลับขึ้นมาไม่ทันไลน์กองหลังเพื่อนร่วมทีม ทำให้อีเฮียนาโช่ไม่ล้ำหน้า
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กลาง) และเคลาดิโอ บราโว่ (ขวา / AFP)
แมนฯ ยูไนเต็ด ตีตื้นได้จากความผิดพลาดของเคลาดิโอ บราโว่ นายทวารตัวใหม่ของทีมเรือใบสีฟ้า ที่ออกมาตัดบอลไม่เข้าใจกันกับจอห์น สโตนส์ อีกหนึ่งสมาชิกใหม่ของทีม ทำให้ลูกหลุดมือ และซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงซ้ำเข้าไปในช่วง 3 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก
โจเซ่ มูรินโญ่ (AFP)
ขณะที่ 45 นาทีหลัง ไม่มีประตูเกิดขึ้น จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ และชนะ 4 นัดรวด มี 12 คะแนน แต่ทีมปีศาจแดงแพ้นัดแรก และชนะ 3 มี 9 คะแนนเท่าเดิม
“เป๊ป” กวาร์ดิโอล่า เดินฉลองชัยหลังเกมกับลูกทีม (AFP)