เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่โดนทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปลดออกจากตำแหน่งกุนซือกลางคันฤดูกาลก่อน และคุมหนึ่งในยักษ์ใหญ่ประเทศสกอตแลนด์อย่างกลาสโกว์ เซลติค ในปัจจุบัน ยืนยันว่าทีมของเขาไม่สมควรเป็นฝ่ายอับอายจากการบุกพ่าย “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์มโหฬาร 0-7 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2016-17 กลุ่มซี นัดแรก เมื่อวันที่ 13 กันยายน แม้จะเป็นความพ่ายแพ้ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสโมสรยุโรปของเซลติคก็ตาม
โดย “บีร็อด” ต้องเห็นลูกทีมเสียประตูให้ “บาร์ซ่า” ที่เพิ่งเสียฟอร์มพ่ายอลาเบส น้องใหม่ และทีมรองบ่อนในเกมลีกประเทศตัวเองคาสนามคัมป์นูแห่งนี้ 1-2 ถึง 7 ลูก จากลิโอเนล เมสซี่ ตั้งแต่ 3 นาทีแรก ก่อนฝ่ายหลังบวกเพิ่มอีก 2 ในนาที 27, 60 จนเป็น “แฮตทริก” ที่ 6 ของตัวเองในแชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นสถิติสูงสุดของรายการ ตามด้วยเนย์มาร์ที่ทำได้แค่ 1 ประตูในนาที 50 ก็จริง แต่กลับจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 4 ลูก ที่เหลือเป็นหลุยส์ ซัวเรซ อดีตลูกน้องเก่าร็อดเจอร์สสมัยร่วมงานกันที่ลิเวอร์พูล 2 ประตูนาที 75 และ 88 ปิดท้ายด้วยอันเดรส อิเนียสต้า จากการลงมาเป็นตัวสำรองเกมนี้ในช่วงพักครึ่งได้เพียง 14 นาที
นอกจากนี้ มุสซ่า เด็มเบเล่ กองหน้าเซลติคที่เพิ่งทำแฮตทริกในเกมลีกสกอตแลนด์ นัดถล่มทีมใหญ่ด้วยกันกลาสโกว์ เรนเจอร์ส 5-1 ศึก “โอลด์เฟิร์มดาร์บี้” ยิงจุดโทษเพื่อตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 24 ไปติดเซฟมาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น นายทวารเจ้าถิ่นที่หายเจ็บกลับมา
อย่างไรก็ตาม ร็อดเจอร์สที่เริ่มดังกับการเป็นผู้จัดการทีมสวอนซี ซิตี้ ในฐานะที่ทำทีม “หงส์ขาว” เล่นบอลด้วยการต่อบอลสั้นคล้ายบาร์เซโลน่า จนได้รับฉายาว่า “สวอนซีโลน่า” ยืนยันว่า ถ้าพูดกันในฐานะมืออาชีพ การแพ้ 7-0 ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน แต่ตนคิดว่าการที่ลูกทีมตามหลังบาร์ซ่าแค่ 2 ลูกในครึ่งแรก เป็นผลงาน และการเล่นที่เป็นแบบแผนดีแล้ว เสียดายที่ทีมเสียประตูแรกเร็วไป แถมยังเกิดขึ้นในสนามอย่างคัมป์นูอีก
ร็อดเจอร์สยังกล่าวต่อไปอีกว่า แต่ดูเหมือนลูกทีมจะพยายามกลับเข้ามาสู่เกมอีกครั้ง จนเริ่มต่อบอลทำเกม และมีโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะสำคัญในครึ่งแรกที่เซลติคเกือบตีเสมอ 1-1 จากลูกจุดโทษเด็มเบเล่ ซึ่งกองเชียร์บาร์ซ่าเกือบทั้งสนามมีสีหน้าวิตกอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากพวกเขาเพิ่งเห็นบาร์ซ่าแพ้คาบ้านเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายการตีเสมอก็ไม่เกิดขึ้น แถมยังต้องมาเสียประตู 0-2 หลังจากนั้นแค่ 2 นาที ทว่าเหนืออื่นใด เซลติคไม่จำเป็นต้องอายกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เพราะบาร์ซ่าเหนือกว่าพวกเราจริงๆ
