อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสโลวีเนีย ชนะการเลือกตั้งประธานสหพันธ์ฟุุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) คนใหม่ ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตำแหน่งดังกล่าว ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 14 กันยายน
โดยมิเชล พลาตินี่ ประธาน “ยูฟ่า” คนที่ 6 ก่อนหน้านี้วัย 61 ปี จำเป็นต้องประกาศลงจากตำแหน่งนายใหญ่ลูกหนังทวีปยุโรป ซึ่งทำหน้าที่มาตึ้งแต่ปี 2007
เนื่องจากศาลอนุญาโตตลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) มีคำตัดสินแค่ลดโทษแบนที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษห้ามพลาตินี่ยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทุกระดับชั้นเป็นเวลา 6 ปี จากคดีรับเงินไม่โปร่งใส 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70 ล้านบาท / อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ 35 บาท) เหลือ 4 ปี ไม่ได้ยกเลิกโทษแบนดังกล่าวตามที่พลาตินี่ยื่นอุทธรณ์แต่อย่างใด
ส่งผลให้ยูฟ่าต้องเลือกตั้งผู้นำองค์กรคนใหม่ ระหว่างอเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสโลวีเนียที่จะฉลองวันเกิด 49 ปีกลางเดือนหน้า กับ ไมเคิล ฟาน ปราก ประธานสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ ที่กำลังจะมีวันเกิดครบ 69 ปีเต็มวันที่ 28 กันยายน
ก่อนการเลือกตั้ง สำนักข่าว “เอเอฟพี” ของฝรั่งเศสรายงานว่า แม้เซเฟรินจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่การที่เจ้าตัวได้รับการสนับสนุนจากเยอรมนี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และโปรตุเกส จึงน่าจะได้รับการโหวตไม่ต่ำกว่า 30 เสียงจากชาติสมาชิกทั้งหมด 55 ชาติ
ส่วนฟาน ปราก มีเพียงอังกฤษ, เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ประเทศตัวเองที่คอยหนุนหลังเท่านั้น
ขณะที่ผลการเลือกตั้งไม่มีการพลิกโผ หลังเซเฟรินชนะการโหวตตั้งแต่รอบแรกถึง 42 เสียง เหนือฟาน ปรากที่ได้แค่ 13 เสียงเท่านั้น
ทำให้เซเฟรินกลายเป็นประธานยูฟ่าคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์ ซึ่งเจ้าตัวประกาศชัยชนะว่า ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการลูกหนังยุโรปแล้ว เพราะนี่คือการสิ้นสุดยุคเก่า และเริ่มต้นยุคใหม่ รวมทั้งขอให้สัญญาว่าจะไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรือเกมการเมืองเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว เพราะฟุตบอลคือสิ่งแรกที่ทุกคนควรคิดถึง
