ทีมขี่ม้าอีเวนติ้งไทยถอนตัวลุยโตเกียวเกมส์ ยันม้าปลอดภัย ไม่มีบาดเจ็บ
หลังจากที่ 3 นักกีฬาขี่ม้าไทยแข่งขันไม่จบ ในการแข่งขันขี่ม้าอีเวนติ้ง วันที่ 2 ประเภทครอสคันทรี กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่ซี ฟอเรสต์ ครอส คันทรี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย “มิ้นต์” อารีย์ณัฎฐา ชวตานนท์ และม้า Boleybawn Prince ประสบอุบัติเหตุหลังกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเท้า, “บอมบ์” วีรภัฏ ปิฏกานนท์ และม้า Carnival March ตกม้า ส่วน “นัท” กรธวัช สำราญ และม้า Bonero K ปฏิเสธการกระโดด ทำให้แข่งไม่จบ ถูกปรับคนละ 200 คะแนน และหล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายที่ 15
“โอม” นายนารา เกตุสิงห์ ผู้จัดการทีมขี่ม้าทีมชาติไทย ได้ทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทีมขี่ม้ารวมถึงทีมสัตวแพทย์ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง (Jumping) ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ เพื่อสวัสดิภาพที่ดีของม้าในอนาคต และการรักษาสภาพร่างกายม้าให้สมบูรณ์ต่อการแข่งขันในระยะยาว
นายนารากล่าวว่า หลังจากที่นักกีฬาทั้ง 3 คน ได้พยายามอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถผ่าน หรือจบการแข่งขันครอสคันทรีเนื่องจากอุบัติเหตุนักกีฬาตกม้า และปฏิเสธเครื่องกระโดด ล่าสุดทีมเจ้าหน้าที่ นักกีฬา และสัตวแพทย์ ได้มีการประชุมพิจารณาอย่างระเอียดรอบคอบ โดยคำนึงสวัสดิภาพที่ดีของม้าที่เรารัก และการรักษาสภาพร่างกายม้าให้สมบูรณ์ต่อการแข่งขันในระยะยาวในอนาคต จึงตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางในช่วงเย็นวันที่ 2 สิงหาคมนี้
“ยืนยันม้า และนักกีฬาทุกคน ปลอดภัย และไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรง ทีมงาน ผู้เลี้ยงม้า ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลม้าอย่างสมบูรณ์ และเต็มที่ เช่น การคูลดาวน์ให้อุณหภูมิของม้าลดลง และมีการเฝ้าสังเกตจากสัตวแพทย์การแข่งขันกลับเข้าคอก การประคบน้ำแข็งขาม้า และจูงเดินอย่างสม่ำเสมอ ฯลฯ ส่วนนักกีฬาที่ตกม้าถึงแม้ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ยังจำเป็นที่ต้องแสดงตนต่อทีมแพทย์ตามกฏการแข่งขัน ซึ่งนักกีฬาขี่ม้าไทยไม่มีรายงานการบาดเจ็บและได้ปฏิบัติตามทุกขั้นตอนจนแล้วเสร็จ”
ในส่วนของม้าของทีมไทยได้เดินทางกลับมายังคอกม้าที่สนามหลักของการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยเมื่อเย็นวันที่ 1 สิงหาคม โดยโอกาสนี้ทางทีมขี่ม้าไทย ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน ขอขอบคุณทุกความห่วงใย ทุกกำลังใจที่ส่งมาโดยตลอด และพวกเราจะขอนำประสบการณ์ที่ได้จากการเตรียมการ รวมถึงการแข่งขันในครั้งนี้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกีฬา ”ขี่ม้า” ที่เรารักต่อไป