‘สมยศ’ ยันอย่าด่วนพิพากษาโทษแฟน’กิเลน-ท่าเรือ’ วิวาท ‘เมืองทอง’ ประกาศขู่พร้อมยุบทีมหากโดนแบน-ตัดแต้ม!

จากเกิดเหตุการณ์ที่แฟนบอลสโมสร “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับแฟนบอลสโมสร “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟ.ซี. บริเวณด้านนอกเอสซีจี สเตเดียม หลังจบเกม “โตโยต้า ลีก คัพ 2016” รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผลเสมอกัน 1-1 (รวมผล 2 นัด 3-2) ทำให้สโมสรเมืองทองผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 15 ตุลาคมนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เป็นที่น่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าผู้บริหารทั้งสองทีมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ แต่เมื่อเกิดแล้วสมาคมก็จะต้องเข้าไปดำเนินการ โดยเท่าที่ทราบจากการได้รับรายงานนั้น ขั้นแรกจะให้ผู้ควบคุมการแข่งขันรายงานเหตุในสนามและนอกสนามที่เกิดขึ้นให้คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทที่มี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานให้เป็นฝ่ายพิจารณาว่าใครถูก ใครผิด เหตุเกิดอย่างไร และมีผลอย่างไร โดย พล.ต.ท.อำนวย จะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทีมเมืองทอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ และพนักงานสอบสวนเข้ามาชี้แจงรายละเอียดประกอบการพิจารณาด้วย

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯกล่าวว่า ได้มอบนโยบายไปแล้วว่าให้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วนกรณีพิเศษ เพราะจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในอนาคต ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า จะลงโทษตัด 9 แต้มทั้งสองทีม โดยยึดจากบทลงโทษที่แฟนบอลทั้งสองทีมเคยทะเลาะวิวาทกันเมื่อปี 2557 นั้น ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเร็วเกินไปทีจะลงโทษทั้งการตัดแต้ม หรือตัดสิทธิแข่งขัน ซึ่งยังตอบไม่ได้ เนื่องจากจะต้องไปดำเนินการตามขั้นตอน แต่ตนได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการพิจารณาอย่างรอบคอบ และจะต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน ยืนยันว่าจะมีการตัดสินที่มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับบทลงโทษคงจะต้องดูตามระเบียบข้อบังคับ รวมถึงนำแนวทางปฏิบัติที่เคยทำมาก่อนหน้านี้มาประกอบการพิจารณาด้วย โดยคณะกรรมการของสมาคมชุดก่อนเคยระบุว่า หากแฟนบอลทั้งสองทีมทะเลาะวิวาทกันอีกจะตัดสิทธิจากการแข่งขันนั้น ก็จะนำมาประกอบการพิจารณาด้วย

“อย่าเพิ่งให้ผมตอบบทลงโทษเร็วจนเกินไป เพราะจะต้องรอการพิจารณาโดยยึดระเบียบข้อบังคับ และแนวทางในอดีตที่ผ่านมา ผมได้ดูข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน และจะให้นำไปประกอบการพิจารณาด้วย แต่ทั้งนี้ขอให้มั่นใจในการพิจาณาของ พล.ต.ท.อำนวย เพราะเขาเคยเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุด้วย เขาเป็นนักสืบสวนสอบสวน และจะแสวงหาพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์มาประกอบการพิจารณาแน่นอน”

Advertisement

ขณะที่สโมสรการท่าเรือได้ชี้แจงว่า แฟนบอลการท่าเรือได้ไปดำเนินการแจ้งความที่สถานตำรวจแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 14 กันยายน ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บฝั่งการท่าเรือนั้น ขอแบ่งดังนี้ 1.นายยอดรัก วรรณวงศ์ (บุคคลในภาพที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์) อาการหนักสุด แต่ล่าสุดปลอดภัยดีแล้ว โดยมีอาการกรามแตกหัก และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลชลประทานตั้งแต่เมื่อคืนเกิดเหตุ 2.ส่วนคนอื่นๆ บาดเจ็บเล็กน้อยสามารถกลับบ้านได้ตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาคนเจ็บ “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือจะจัดการดูแลให้เรียบร้อยทั้งหมด เพราะคนเจ็บสำคัญสุด

ด้านนายระวิ โหลทอง ประธานที่ปรึกษาสโมสรเมืองทองฯ กล่าวว่า ในนามขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่ามีการจัดตั้งกองเชียร์ขึ้นมา เพื่อทำให้มีความวุ่นวาย และมีผลกระทบทางอ้อมต่อการท่าเรือ เพราะจะเป็นการกลั่นแกล้งการขึ้นไทยลีก โดยในกรณีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แมนฯยู กับ แมนฯ ซิตี้ ในเกมล่าสุด ซึ่งแฟนบอลปะทะกันนอกสนาม และหนักกว่าเมืองไทยยังไม่มีการแบนสโมสร หรือตัดคะแนนในลีก ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แต่มีคณะกรรมการบางคนในสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ออกมาพูดนั้น ซึ่งการตัดสินต้องยึดมาตรฐาน และกติกาข้อบังคับระดับสากลคือ ฟีฟ่าเป็นหลัก ถ้ามาตรการออกมามีผลกระทบโดยตรงที่ร้ายแรงกับสองสโมสร โดยเฉพาะเมืองทองนั้น จะทำการประกาศยุบทีมทันที โดยเราได้แจ้งไปยังบอร์ดของเอสซีจีให้ทราบเรื่องนี้เรียบร้อย

“ที่ผ่านมาเราสร้างทีมไม่ได้หวังผลประโยชน์จากทางการค้า รวมทั้งช่องทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เรามีเป้าหมายทำทีมฟุตบอลเพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนบอลยามที่ออกไปเป็นทีมเยือน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีกองเชียร์ที่ตามมาเชียร์ทีมอย่างล้นหลาม ตั๋วหมดทุกครั้ง และส่งผลดีต่อทีมชาติไทยโดยตรงอีกด้วย” นายใหญ่กิเลนผยองกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image