จากเหตุการณ์ที่แฟนบอลสโมสร “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับแฟนบอล “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟ.ซี. บริเวณด้านนอกเอสซีจี สเตเดียม หลังจบเกม “โตโยต้า ลีก คัพ 2016” รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผลเสมอกัน 1-1 (รวมผล 2 นัด 3-2) ทำให้ทีมเมืองทองผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 15 ตุลาคมนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกประกาศระบุว่า จากเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และอยู่ในระหว่างการรอผลการสอบสวน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก และเพื่อความปลอดภัยของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งขันในรายการต่างๆ จึงให้การแข่งขันของสโมสรเมืองทอง และการท่าเรือ หากกรณีเป็นทีมเหย้า ซึ่งจะต้องทำการแข่งขันในฐานะเจ้าบ้านนั้น ให้ไปทำการแข่งขันในสนามทีมเยือนแทน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องให้เมืองทองและการท่าเรือ ออกไปเป็นทีมเยือนนั้น เพราะตนเป็นตำรวจ พร้อมกับได้รับข่าวสารมาว่า อาจจะเกิดกลุ่มผู้ไม่หวังดีมาสร้างสถานการณ์กับทั้ง 2 สโมสรนี้ และยิ่งบานปลายไปมากกว่าเดิม ทำให้ต้องระงับเหตุเอาไว้ก่อน ซึ่งหากว่าทั้งสองทีมสามารถหาสนามกลางมาแข่งขันแทนได้ รวมถึงคู่แข่งยินดีทำเช่นนั้นด้วยก็พร้อมให้เสนอเรื่องเข้ามา แต่ทั้งเมืองทองและการท่าเรือต้องออกค่าใช่จ่ายเองทั้งหมด รวมถึงจะไม่สามารถเปิดให้แฟนบอลเข้าชมได้ แต่แฟนบอลทีมคู่แข่งนั้นจะสามารถเข้าชมเกมได้ตามปกติ ส่วนกรณีที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แถลงการณ์จี้ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯใช้มาตรฐานเดียวกับที่ขอนแก่นถูกเพิกถอนสิทธินั้น ตนไม่สนใจเรื่องนี้
“เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีแฟนบอลของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แล้วผมเชื่อว่าแฟนบอลของทั้งสองทีมยังอยู่ในอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นความโกรธแค้นก็ดี ความไม่พึงพอใจก็ดี ได้มีการตอบโต้ยั่วยุผ่านโซเชียลมีเดียกันไปมา ทางผมเอง และท่านประธานฝ่ายพิจารณาวินัย และมารยาท พวกเราเป็นห่วง ติดตาม และมีสิ่งบอกเหตุให้น่าเชื่อได้ว่า ถ้ามีการแข่งขันของทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ทีมการท่าเรือ ในฐานะทีมเหย้า อาจมีผู้ไม่หวังดี สร้างสถานการณ์ ที่เป็นผลร้ายกับทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ทีมการท่าเรือให้ได้รับผลกระทบกับสโมสร”
“เพราะฉะนั้นเมื่อเราไม่แน่ใจและไม่อยากให้สิ่งเหล่านั้นเกิดซ้ำอีก จึงเป็นหน้าที่ของสมาคมฯ จะต้องหามาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาเพื่อระงับยับยั้งสิ่งเหล่านั้น การที่สมาคมฯมีประกาศให้การแข่งขันแมตช์เหย้าของทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ทีมการท่าเรือ เปลี่ยนเป็นเยือนแทน ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์เช่นนั้นอีก และเหตุการณ์เช่นนั้นมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทีมอื่นแต่มันส่งผลกระทบต่อ ทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ทีมการท่าเรือ เพราะว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะเกิดบุคคล กลุ่มคนฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้เลวร้ายและทำให้ทั้งสองทีมได้รับผลกระทบ นี่เป็นเหตุผลที่ผมประกาศให้แมตช์เหย้าของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซีเป็นแมตช์เยือน”
“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน ถ้าหากทั้งทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี สามารถหาสนามกลางเป็นสนามจัดการแข่งขันแทนสนามของสโมสรเองได้และสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี ยอมรับที่จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายจัดการแข่งขันตลอดจนไม่อนุญาตให้แฟนบอลของตนเข้าไปดูการแข่งขันในแมตช์นั้นๆ ผมก็พร้อมที่จะผ่อนปรน” นายกลูกหนังไทยกล่าวทิ้งท้าย
