แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบกับความปราชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันในการลงสนามทุกถ้วย หลังจากบุกพ่ายวัตฟอร์ด 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2006 ซึ่งโจเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมแพ้ถึง 3 นัดติดต่อกันด้วย
นัดนี้ เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำจากเอเดรียน คาปู แข้งชาวฝรั่งเศส ในนาทีที่ 34 ก่อนที่มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษซึ่งเพิ่งได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกในเกมลีกฤดูกาลนี้ จะตีเสมอให้ปีศาจแดงในนาทีที่ 62 แต่แตนอาละวาดก็มาได้อีก 2 ประตูช่วงท้ายเกม จากฮวน ซูนิก้า ตัวสำรอง ในนาที 83 และลูกโทษของทรอย ดีนีย์ กัปตันทีม ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+5
ผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้แมนฯยูยังมี 9 คะแนน จาก 5 นัด ส่วนวัตฟอร์ดมี 7 คะแนน
ภายหลังการแข่งขัน ดีนีย์กล่าวว่า ดีใจที่ทีมเก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน เพราะคิวแข่งต้นฤดูกาลของวัตฟอร์ดถือว่าโหดกว่าทุกทีม การทำได้ถึง 7 แต้มถือเป็นเรื่องน่าพอใจสำหรับทีมเล็กๆ อย่างนี้มาก ทุกคนเล่นได้ดีในนัดนี้ สามารถกดดันผู้เล่นแมนฯยู ไม่เปิดพื้นที่ให้เล่นบอล และเข้าสกัดได้หนัก ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการรับมือทีมระดับนี้
ด้านโจเซ่ มูรินโญ่ กล่าวภายหลังจบเกมว่า การพ่ายแพ้นัดนี้เกิดจากปัจจัย 3 ประการ ประการแรกคือความผิดพลาดของผู้เล่นปีศาจแดงเอง ทั้งแบบตัวบุคคลและในภาพรวมของทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และปรับปรุงต่อไป ประการถัดมาคือผู้ตัดสินทำหน้าที่ผิดพลาดในบางจังหวะ โดยเฉพาะประตูแรกซึ่งอ็องโตนี่ มาร์กซิยัล น่าจะได้ฟาวล์ และประการสุดท้ายคือโชค นัดนี้แมนฯยูไม่มีโชคทั้งที่เล่นได้ดีกว่า และต้องชมนายทวารเจ้าถิ่นที่ป้องกันลูกโหม่งของซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ดีมากๆ
กุนซือชาวโปรตุกีสกล่าวในตอนท้ายว่า แมนฯยูเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี แต่พอเริ่มแพ้ นักเตะหลายคนปรับตัวรับสถานการณ์ด้านลบไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเป็นเรื่องต้องปรับปรุงต่อไป
