องค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) เรียกประชุมระดมความคิดอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา หลังโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีถูกกลุ่มแฮกเกอร์ “แฟนซี แบร์ส” เจาะเข้าฐานข้อมูล และนำข้อมูลการยกเว้นการใช้สารต้องห้ามเพื่อการรักษาของนักกีฬาดังโลกตะวันตกมาเผยแพร่ และมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติของวาด้า
โดยวาด้าเรียกร้องให้องค์กรที่สนับสนุนงบประมาณ อาทิ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพิ่มงบประมาณสนับสนุน รวมถึงให้อำนาจและอิสระในการทำงานกับวาด้ามากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เคราร์โด้ เวอร์ไธน์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกอาร์เจนตินา ได้กล่าวตำหนิวาด้าว่า พยายามผลักความรับผิดชอบไปให้คนอื่นทั้งที่องค์กรตัวเองอยู่ใจกลางของระบบที่เป็นปัญหา
ทั้งนี้ หลังจากกลุ่มแฟนซี แบร์ส เผยข้อมูลการใช้สารต้องห้ามของนักกีฬาดังของสหรัฐอเมริกาและแถบยุโรปตะวันตก อาทิ พี่น้องนักเทนนิส วีนัส-เซเรน่า วิลเลียมส์, สองนักปั่นเจ้าของแชมป์ “ตูร์ เดอ ฟร้องซ์” ชาวอังกฤษ แบรดลีย์ วิกกิ้นส์ และคริส ฟรูม, นักวิ่งปอดเหล็กเจ้าของ 4 เหรียญทองโอลิมปิก โม ฟาราห์, อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวสเปน ราฟาเอล นาดาล, นักยิมนาสติกดีกรีแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิก ซีโมน ไบล์ส ว่าหลายคนใช้สารต้องห้ามเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยในลักษณะหมิ่นเหม่ เช่นใช้ระหว่างแข่ง หรือก่อนแข่งเพียงไม่นาน
สังคมก็เกิดกระแสวิจารณ์ว่าตัวระบบมีปัญหา เนื่องจากเปิดช่องให้นักกีฬาโด๊ปยาแบบถูกกฎ เพียงแค่ขอใบรับรองแพทย์ว่าจำเป็นต้องใช้สารต่างๆ เพื่อรักษาอาการเจ็บ แม้ว่าจะไม่ได้เจ็บป่วยจริงได้ นอกจากนี้ยังวิจารณ์วาด้าที่เรียกร้องให้แบนนักกีฬารัสเซียแบบเหมารวมจากทั้งโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ 2016 ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมเรื่องรัฐบาลรัสเซียสนับสนุนปฏิบัติการโด๊ปยาในประเทศ
ล่าสุด มีรายงานว่า ไอโอซีซึ่งรับผิดชอบจ่ายเงินสนับสนุนวาด้า 50 เปอร์เซ็นต์ทุกปี เตรียมพิจารณาสถานะของวาด้าใหม่ และอาจตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาทดแทน เพื่อควบคุมและปราบปรามปัญหาต่างๆ ไม่ใช่แค่เรื่องใช้สารต้องห้ามเพียงอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมเรื่องล็อกผลการแข่งขัน การพนัน รวมทั้งการคอร์รัปชั่นในองค์กรด้วย
