วางรากฐาน! จัดชิงชัยลูกยางยุวชน ‘เอสโคล่า’ คัดเลือก 6 ภาค ต่อยอดปั้นสู่ทีมชาติ
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้แทน บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่ม เอสโคล่า และนายมนัสพงศ์ พรหมพิสิฐพงศ์ ปลัดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชน “เอสโคล่า” รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 (ปีที่ 32) ประจำปี 2564 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน
นายสมพร กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การแข่งขันอั้นมานาน และมาดำเนินการจัดการแข่งขันหลายรายการในช่วงนี้ ซึ่งสมาคมพยายามที่จะจัดการแข่งขันทุกรุ่นอายุตามแผนการวางรากฐานให้กับยุวชน เยาวชน จนถึงทีมชาติ สำหรับรายการนี้จะจัดการแข่งขันรอบคัดเลือกรวม 6 ภาค ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน-18 ธันวาคมนี้ เพื่อหาทีมชนะเลิศเป็นตัวแทนภาคเข้าร่วมแข่งขันรอบชิงชนะเลิศประเทศไทย ที่ยิมเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี วันที่ 22-29 ธันวาคม
“รายการวอลเลย์บอลยุวชน เอสโคล่า รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่สำคัญ ซึ่งต่อยอดมาจากรุ่นอายุ 12-14 ปี โดยในรุ่น 16 ปีนี้เป็นรุ่นที่เริ่มได้เห็นแววของนักกีฬาวอลเลย์บอลเยาวชนที่พัฒนาไปสู่ทีมชาติต่อไปได้ในอนาคต เราจึงให้ความสำคัญ เพราะถือว่าเป็นการพัฒนามาจากต้นน้ำสู่กลางน้ำ และต่อยอดไปสู่ปลายน้ำ” นายสมพร กล่าว
ขณะที่ นางธารทิพย์ กล่าวว่า ไทยเบฟเวอเรจ อยู่เคียงข้างสนับสนุนสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ มากว่า 30 ปี และมีส่วนร่วมพัฒนาวงการวอลเลย์บอลไทยมาโดยตลอด โดยรายการนี้ถือเป็นการพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น และจะเป็นเวทีให้นักกีฬาเยาวชนได้แสดงความสามารถ เพื่อก้าวไปสู่ทีมชาติต่อไป ซึ่งเรายืนยันว่า จะยังคงสนับสนุนวงการวอลเลย์ไทย เพื่อไปสู่เป้าหมายในโอลิมปิกให้ได้แม้ว่าจะยากเย็นเพียงใดก็ตาม
สำหรับกำหนดการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชน “เอสโคล่า” รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 (ปีที่ 32) ประจำปี 2564 ดังนี้
1.นครหลวง ที่ยิมโรงเรียนเทศบาล 1 (เยี่ยมเกษสุวรรณ) จ.สมุทรปราการ วันที่ 25 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม
2.ภาคเหนือ ที่โรงยิมเนเซียม 1,000 ที่นั่ง สนามกีฬาชากังราว จ.กำแพงเพชร วันที่ 27 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม
3.ภาคตะวันออก ที่ยิมโรงเรียนจังจันทร์วิทยา จ.ระยอง วันที่ 4-10 ธันวาคม
4.ภาคใต้ ที่โรงยิมเนเซียมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง จ.ระนอง วันที่ 1-7 ธันวาคม
5.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยิมโรงเรียนวาปีปทุม จ.มหาสารคาม วันที่ 11-18 ธันวาคม
6.ภาคกลาง ที่โรงยิมเนเซียมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง วันที่ 13-19 ธันวาคม
7.รอบชิงชนะเลิศ ที่ยิมเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี วันที่ 22-29 ธันวาคม
