‘ซิโก้’ยังไม่เลือก11ตัวจริง’ช้างศึก’ดวล’ยูเออี’ เปรยยึดชุดหลัก-‘ธนบูรณ์’เร้าเพื่อนช่วยกันสู้

ทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย มีโปรแกรมทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 3 บุกเยือน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันที่ 6 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น 20.00 น. หรือเวลาไทย 23.00 น. ต่อด้วยนัดที่ 4 บุกเยือน อิรัก ที่สนามกลา ประเทศอิหร่าน วันที่ 11 ตุลาคม โดยผลงาน 2 นัดแรกทีมไทยแพ้รวด 2 นัด ยังไม่มีแต้ม อยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ทีมชาติไทยเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่กรุงอาบูดาบี ยูเออี เป็นวันที่ 6 โดยช่วงเช้า “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทยให้นักเตะผ่อนคลายด้วยการเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า จากนั้นช่วงเย็นไปฝึกซ้อมที่อาเหม็ด ฟอร์ซ สเตเดียม ซึ่งยังคงเน้นติวแทคติค และการเข้าทำเป็นพิเศษเหมือนเดิม

โค้ชซิโก้กล่าวว่า การเก็บตัวที่ยูเออีเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักเตะปรับตัวได้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศที่ค่อยๆ ลดลง อีกทั้งช่วงเย็นอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ทำให้การฝึกซ้อมเป็นไปด้วยดี สำหรับ 11 ตัวจริง ยอมรับว่ายังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครลงสนาม เพราะอยากให้ทุกคนพยายามแข่งขันกัน แต่อาจเปลี่ยนแปลงจาก 2 เกมแรกไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นโครงหลักชุดเดิม เพราะมีความเข้าใจแทคติคเป็นอย่างดี แต่อาจมีบางคนที่มีลุ้นเบียดแย่งลงสนาม

กุนซือไทยกล่าวว่า ยังมีเวลาซ้อมอีก 3-4 วัน ก่อนเจอยูเออี ฉะนั้นไม่ว่าจะส่งใครลงสนามจะต้องเข้าใจแทคติค และเล่นกับเพื่อนร่วมทีมได้ทุกคน โดยที่ผ่านมาได้วางโปรแกรมซ้อมเพียงช่วงเย็นเท่านั้น เพราะไม่อยากให้นักเตะต้องใช้ร่างกายหนักเกินไป โดยสภาพความฟิตถือว่าทุกคนฟิตเต็มร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ยังกังวลคือเกรงว่าจะมีใครได้รับบาดเจ็บ

Advertisement

“เราได้ทำการบ้าน รู้ข้อมูลคู่ต่อสู้ และรู้จุดแข็ง-จุดอ่อนของทีมเรา แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องไม่มีใครบาดเจ็บ เพราะว่าเราซ้อมมาดี เตรียมพร้อมมาดี ส่วน 2 เกมแรกที่แพ้ซาอุดีอาระเบีย 0-1 และญี่ปุ่น 0-2 ได้เห็นจุดแข็ง และจุดอ่อนของทีมค่อนข้างเยอะ ดังนั้นจะพยายามแก้ไขจุดอ่อน รวมถึงเพิ่มเติมเกมรุกที่ต้องละเอียด และทำให้เฉียบขาด เพราะโอกาสยิงประตูคงไม่บ่อย ฉะนั้นจึงต้องเน้นในจุดนี้ หากมีโอกาสต้องทำประตูให้ได้” โค้ชซิโก้กล่าว

“ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ นักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทั้งกองกลางตัวรับ และกองหลังตัวกลาง เปิดเผยว่า เริ่มปรับสภาพเข้ากับอากาศได้แล้ว ส่วนอาหารการกินก็ถือว่าถูกปาก โดยนักเตะเข้าใจแทคติค 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนคู่แข่งยูเออีจะมี อาเมอร์ อับดุลเราะห์มาน เป็นนักเตะสำคัญ และศูนย์หน้าตัวใหญ่ทั้ง อะหมัด คอลีล และอิสมาอีล อัล ฮามาดี ที่มีความเร็ว ทำให้นักเตะไทยต้องช่วยกัน ไม่ใช่แค่แผงหลัง หรือกองกลาง หรือกองหน้า เพราะจะต้องช่วยกันทั้งทีม

ทั้งนี้ 11 คนแรกของทีมชาติไทย ในเกมแรกที่แพ้ซาอุดีอาระเบีย 0-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แบ๊กขวา ทริสตอง โด แบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับกรวิทย์ นามวิเศษ กองกลางตัวรับ สารัช อยู่เย็น กองกลางตัวรุก ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับปกเกล้า อนันต์ ริมเส้นขวา มงคล ทศไกร ริมเส้นซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และกองหน้าตัวเป้า ธีรศิลป์ แดงดา ส่วนเกมนัด 2 ที่แพ้ญี่ปุ่น 0-2 เปลี่ยนเพียงนฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม กับชาริล ชัปปุยส์ ลงเล่นแทนมงคลกับสารัชเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น

Advertisement

14556697_1592645314378361_3006072910319535152_o

14556570_1592646241044935_8665369977834312043_o

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image