‘ชนาธิป’ เปิดใจย้ายเพราะต้องการแชมป์ มั่นใจเพิ่มศักยภาพให้ ‘ฟรอนตาเล่’ ได้
“เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะใหม่ป้ายแดงของทีมแชมป์เจลีกอย่าง “อัซซูร่า เนโร่” คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เปิดใจครั้งแรกหลังย้ายจาก “นกเค้าแมวเมืองเหนือ” คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไปร่วมทีมอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันเป้าหมายว่าอยากจะคว้าแชมป์เจลีกมาครองให้ได้
ชนาธิปกล่าวว่า ตอนที่ฟรอนตาเล่ติดต่อมาคิดว่าคงเห็นอะไรในตัวเราบางอย่าง ซึ่งตอนที่คุยกันก็ได้ถามเรื่องนี้ ทางฝั่งฟรอนตาเล่บอกว่าจากการเสาะหาข้อมูลแล้วเราเป็นนักเตะที่ดีที่สุด อยากได้ตัวไปเพราะคิดว่าจะทำให้ทีมแกร่งกว่าเดิม จึงรู้สึกซาบซึ้งและดีใจ เป็นเกียรติอย่างมากที่จะได้ไปอยู่ในทีมที่ดีที่สุด เรื่องความกดดันนั้นมันมีอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องแสดงศักยภาพให้เห็น ส่วนตัวรับแรงกดดันได้อยู่แล้ว มันอาจจะยากในช่วงแรก เพราะต้องปรับตัวใหม่หมด ปรับการใช้ชีวิต แล้วยังกลับไปช้าต้องเข้าควอรันทีนอีก ก็เป็นห่วงเรื่องความฟิตเล็กน้อย
เมสซี่เจกล่าวต่อว่า รู้สึกดีใจเพราะน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ อีกหลายคน ให้กับเด็กตัวเล็กๆ ที่อาจจะมีตนเป็นไอดอล ซึ่งทุกความสำเร็จมันมาจากความพยายาม ความอดทน ที่เราจะต้องสู้กันก่อน ดีใจที่เป็นที่ยอมรับจากทีมที่เก่งที่สุดในญี่ปุ่น ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่อยู่ร่วมกับผมมา มีส่วนทำให้พัฒนาขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีแบบนี้
ชนาธิปยังกล่าวว่า เรื่องการย้ายทีมครั้งนี้ไม่ได้ปรึกษากับใครเลย ตั้งแต่ได้รับข้อเสนอจนคุยจบก็ไม่มีใครรู้เรื่องนอกเหนือจากเอเยนต์ส่วนตัวกับ “ทิซัง” นายทิวาพล สังขพันธ์ ที่เป็นล่ามเท่านั้น ส่วนพ่อ (นายก้องภพ สรงกระสินธ์) เองก็ไม่ได้บอก เพราะกลัวว่าจะไปคุยกับคนอื่นต่อ ไม่อยากให้เป็นข่าวหลุดจากเราเพราะมันต้องเป็นความลับ รวมถึงเพื่อนๆ ที่อยู่ในแคมป์ทีมชาติก็ไม่ได้บอก ทุกคนมารู้ตอนที่ญี่ปุ่นออกข่าวพร้อมกันทั้งนั้น
ดาวเตะทีมชาติไทยยังพูดถึงต้นสังกัดใหม่อย่างฟรอนตาเล่ว่า เป็นทีมที่เน้นการต่อบอล เล่นวันทู, ต่อบอลเร็ว, ใช้ช่องว่างในการเข้าทำ แล้วเวลาการยืนตำแหน่งมักจะยืนกันไม่ห่างมาก การวิ่งเฉลี่ยจะพอๆ กันทั้งทีม ส่วนตัวก็คงจะไปในแบบที่ตัวเองเป็น มันอาจจะยากในช่วงแรกเพราะยังไม่ชินกับระบบของทีม ไม่รู้ว่าจะให้เล่นตรงไหน แต่ถ้าปรับตัวได้ก็คิดว่าน่าจะมีศักยภาพมากพอทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น
“เป้าหมายแน่นอนว่าอยากได้แชมป์อยู่แล้ว ผมคุยกับซัปโปโรจริงๆ พวกเขาอยากให้อยู่ต่อ อยากให้เป็นตำนานของทีม มันเป็นอะไรที่ตัดสินใจยาก แต่ก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าถึงเวลาที่ต้องไป ตลอด 4 ปีครึ่ง-5 ปี ผมมีความสุข มันเป็นเหมือนบ้าน ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก แต่เรื่องของฟุตบอล ผมมาเพื่อคนรุ่นหลัง อยากประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ตอนอยู่กับซัปโปโรเคยติดเบสต์ 11 มาแล้ว ได้เอ็มวีพีมาแล้ว แต่ในแง่ทีมมันยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้ว” ชนาธิปกล่าวปิดท้าย
