นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี ครั้งที่ 2/2559 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม
นางกอบกาญจน์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีแผนจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี เพื่อขับเคลื่อน และกระตุ้นในมิติการกีฬา, การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ รวมทั้งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อช่วยเสริมสร้างรายได้ของประเทศ โดยได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดรายการโมโตจีพี ซึ่งได้เชิญภาคเอกชนหลายส่วนทั้งด้านกีฬา และอุตสาหกรรมจักรยานยนต์มาเข้าร่วมประชุมด้วย และต่างเห็นด้วยที่จะจัดการแข่งขันในครั้งนี้
นางกอบกาญจน์กล่าวต่อว่า คณะทำงานได้เปรียบเทียบ และศึกษาจากการที่ประเทศมาเลเซียจัดโมโตจีพี รายการ “มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์” โดยในส่วนของไทยนั้น ทางตัวแทนสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้ยืนยันความพร้อมในการจัดทั้งด้านสนามแข่งขัน สนามบิน และโรงแรมที่พัก ซึ่งที่พักได้ให้กระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานทั้งสุรินทร์, นครราชสีมา, ขอนแก่น และอื่นๆ พร้อมกับได้เสนอตัวเลขงบประมาณในการจัดการแข่งขันเบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 347 ล้านบาท โดยจะมีรายได้จากการขายบัตรเข้าชมราว 80 ล้านบาท งบสนับสนุนจากภาคเอกชนอีก 100 ล้านบาท ส่วนภาครัฐจะสนับสนุนในปีแรก 170 ล้านบาท จากนั้นปีต่อไปอาจจะสนับสนุนลดลง ทั้งนี้ การเป็นเจ้าภาพโมโตจีพีครั้งนี้จะมีการเซ็นสัญญา 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2561-2563 ทำให้หลังจากนี้จะต้องพูดคุยรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอย่างชัดเจน รวมทั้งจะต้องคุยกับฝ่ายกฏหมายในรายละเอียดต่างๆ ด้วย เพราะเป็นการเซ็นสัญญาในระยะยาว 3 ปี ก่อนนำเสนอต่อ พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวและกีฬา และคาดว่าจะนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าคือประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมภายในปีนี้
