ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึกจูเนียร์” ทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 21 ปี ภายใต้การดูแลของ “คุณเดียร์” น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้จัดการทีมคนสวย และมี “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งกำลังเตรียมทีมเข้าแข่งขัน 2 รายการสำคัญคือ เยาวชน รุ่นไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก และกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย ในช่วงกลางปีหน้า
ล่าสุดเมื่อช่วงคืนวันที่ 11 ตุลาคม “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ได้นำลูกทีมลงสนามอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติกาตาร์ รุ่นไม่เกิน 23 ที่สนามแอสไพร์ กราวด์ 7 โดยมี ชาบี เอร์นานเดซ แข้งดังระดับโลกอดีตตำนานบาร์เซโลน่าชาวสเปน ซึ่งปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ อัล ซาดด์ ทีมดังในลีกกาตาร์ มานั่งชมเกมข้างสนามด้วย
ผู้เล่นทีมไทย 11 คนแรก ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู รัตนัย ส่องแสงจันทร์ แนวรับจากขวาไปซ้าย สันติภาพ จันทร์หง่อม, เนติพงษ์ แสนมะฮุง, วรวุฒิ นามเวช สุริยา สิงห์มุ้ย แดนกลาง ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, บารมี ลิ้มวัฒนะ, ชัยวัฒน์ บุราญ และคู่หน้า เจนรบ สำเภาดี กับ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา
ออกสตาร์ตเกมผ่านไป 10 นาทีแรกเป็นกาตาร์ที่ตั้งเกมบุกกดดันใส่ทัพช้างศึกยู-21 ได้ดีกว่า ทว่าแนวรับไทยยังช่วยกันป้องกันจังหวะเข้าทำของทางเจ้าถิ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้สกอร์ยังเท่ากันที่ 0-0
เกมสู้ผ่านมาถึงนาที 18 กาตาร์ได้ลุ้นประตูจะๆครั้งแรก จาการขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาแล้วตบเข้ามากลางประตูและเป็น อายับ มาชฮอร์ จัดการซัดเรียดไปที่เสาแรก แต่ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ล้มตัวรับไว้ได้สบาย
จากนั้นไทยเริ่มทำได้ดีขึ้นบุกไปกดดันในแดนรับของเจ้าถิ่นได้บ้าง แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ และถึงนาที 30 ผู้ตัดสิน เป่าหยุดคูลลิ่งเบรกให้ดื่มน้ำก่อนกลับมาหวดกันต่อ แต่ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น
ท้ายเกมนาที 43 ไทย เกือบเสียท่าเมื่อปล่อยให้ผู้เล่นกาตาร์ทำเกมต่อบอลหน้าเขตโทษ และเป็น อับดุลราห์มาน เอนาด ที่หลุดไปปั่นบอลหลุดเสาไกลแค่นิดเดียว ก่อนจบเกมครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
กลับมาสู้ต่อครึ่งเวลาหลัง โค้ชโย่งขยับเปลี่ยนตัวคนแรกทันที โดยส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงมาทำเกมรุกริมเส้นด้านขวาแทน ธนาสิทธิ์ ศิริผลา เพื่อหวังใช้ความจี๊ดกดดันแนวรับเจ้าถิ่น
นาที 49 ทัพช้างศึกจูเนียร์ เปลี่ยนผู้เล่นคนที่สองต่อเนื่อง หลัง บารมี ลิ้มวัฒนะ โดนผู้เล่นกาตาร์ทำฟาวล์ และมีอาการบาดเจ็บ โค้ชโย่งจึงส่ง นพพล พลคำ ลงไปทำหน้าที่ในแดนกลางแทน
นาที 51 ไทย ได้ลุ้นจากจังหวะตัดเกมได้ทางฝั่งซ้าย ชัยวัฒน์ บุราญ จ่ายทะลุไปข้างหน้าให้ เจนรบ สำเภาดี พาบอลเข้าเขตโทษ ทว่าจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นโถมตัวเข้ามากระแทกจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ
นาที 61 ถือเป็นโอกาสลุ้นประตูใกล้เคียงที่สุดครั้งแรกของไทย เมื่อ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ฉวยโอกาสพาบอลลุยจากแดนกลางฝั่งขวาตัดมาหน้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงด้วยซ้ายส่งบอลหลุดกรอบไปแค่นิดเดียว
จากนั้น ไทย เริ่มทำเกมกดดันได้ดีขึ้น นาที 73 ไทย เปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกครั้ง ส่ง วงศกร ชัยกุลเทวินทร์, สุประวีณ์ มีประทัง และอภิรักษ์ วรวงษ์ ลงไปแทน เจนรบ สำเภาดี, สุริยา สิงห์มุ้ย และรัตนัย ส่องแสงจันทร์
นาที 79 โค้ชโย่งเปลี่ยนผู้เล่นชุดสุดท้าย ถอดเอา ชัยวัฒน์ บุราญ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, เนติพงษ์ แสนมะฮุง และส่ง ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, เจนภพ โพธิ์ขี และยศวรรธน์ มนทา ลงแทน
นาที 85 ไทย ได้ลุ้นประตูสองจังหวะติดๆ จาก วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ที่ซัดจากนอกกรอบติดเซฟ แนวรับกาตาร์เคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทาง วงศกร อีกครั้งแต่งเข้าขวาส่งบอลหลุดเสาไกลนิดเดียว
ท้ายเกมนาที 89 ช้างศึกที่บุกใส่อยู่ฝั่งเดียวมาได้ลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ยศวรรธน์ มนทา เปิดไปให้ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ โขกบอลข้ามคานอย่างฉิวเฉียด และจบเกมเสมอกัน 0-0
หลังจบเกม โค้ชโย่ง กล่าวว่า นับเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่ง ทีมมีปัญหาในช่วง 20 นาทีแรกที่โดนเพรสซิ่งสูง ซึ่งอาจจะไม่เคยเจอทีมแบบนี้ กับการอุ่นเครื่องกับทีมชั้นนำระดับเอเชียครั้งแรก แต่โดยรวมแล้วเด็กทำได้ดี มีจังหวะจบ แต่ทำไม่ได้ ที่สำคัญต้องขอบคุณสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ทำให้มีเกมอุ่นเครื่องที่ดีแบบนี้ และถ้ามีแมตช์แบบนี้บ่อยๆ จะทำให้พัฒนาขึ้นได้เยอะ อีกทั้งวันนี้ได้ใช้นักเตะลงสนามครบทุกคน เด็กๆ ก็ได้ประสบการณ์กันครบ ส่วนผลเสมอก็เป็นที่พอใจ เพราะไม่แพ้ทีมที่อันดับในเอเชียดีกว่าเรา อีกทั้งทีมมีการเก็บตัวแค่ 7 วัน ได้ผลเสมอแบบนี้ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว
ด้าน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี กล่าวว่า โดยรวมน้องๆ พยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่จะเห็นว่าช่วงแรกน้อาจจะตื่นเต้นและกลัวคู่ต่อสู้ ทว่าพอในช่วงของครึ่งหลังามารถควบคุมจนทำได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน การมากาตาร์ครั้งนี้ เพื่อให้น้องๆ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ซึ่งก็ให้โอกาสทุกคนลงสนาม และเชื่อว่าทุกคนคงเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ก็อยากได้แมตช์อุ่นเครื่องแบบนี้อีก โดยมองทีมชาติที่อยู่นอกอาเซียน เพื่อให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะจริงๆ ศักยภาพทีมไทยไม่ได้เป็นรองใครก็เชื่อว่าภาพรวมจะดีขึ้นต่อๆ ไป
