นายวสันต์ จันทร์ประณต ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์สโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Wasan A Chanpranot โดยไม่เห็นด้วย ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตัดสินใจไม่เลื่อนเกมฟุตบอลถ้วยรายการ โตโยต้า ลีกคัพ 2016 นัดชิงชนะเลิศ กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 15 ตุลาคม ออกไป พร้อมแสดงความเป็นห่วงนักเตะทีมชาติไทยในสังกัดทีมกิเลนผยองที่ต้องกรำศึกหนักและแทบไม่มีเวลาพัก ก่อนเตะกับทีมปราสาทสายฟ้า
“สมาคมฯ ขอเก็บตัวทีมชาติมากกว่า เวลาฟีฟ่าเดย์ “สโมสรยอม”
สมาคมฯ เลื่อนบอลลีก เช่น นัดวันที่ 28 กันยายน 2559 เพื่อให้ทีมชาติได้เตรีมตัวมากขึ้น และเดินทางไปแข่งที่ยูเออีกกับอิรัก โปรแกรมฟุตบอลลีกโยกมาอัดแน่นมากขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมแทน “สโมสรยอม”
สมาคมฯ เพิ่มแมตช์ฟุตบอลเข้ามา ทั้งที่นักเตะเพิ่งเล่นเกมคัดบอลโลกกับอิรักที่อิหร่าน ในวันที่ 24 มีนาคม เดินทางกลับมาถึงไทยวันเดียวลงเล่นต่อในเกมอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้ ในวันที่ 27 มีนาคม ก็ยังไม่พักนักเตะที่ลงเล่นวันที่ 24 มีนาคม ทั้งที่สมาคมวางโปรแกรมฟุตบอลลีกไว้ 30 มีนาคม ตั้งแต่เปิดฤดูกาล แต่มาเพิ่มโปรแกรมอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้ไม่ถึงสามอาทิตย์ สโมสรก็ต้องเล่นตามโปรแกรมของสมาคมฯ และต้องเป็นฝ่ายเลือกพักนักเตะที่ลงเล่นทีมชาติทั้งสองเกมติดกันแทน “สโมสรยอม”
สมาคมฯ ยุคนี้ประกาศรายชื่อทีมชาติไทยผ่านทางเฟสบุ๊คแฟนเพจของสมาคมฯ ไม่มีหนังสือลายลักษณ์อักษรถึงสโมสร แต่สโมสรก็ให้ความร่วมมือปล่อยนักเตะไปร่วมทีมชาติ “สโมสรยอม”
สมาคมฯ ไม่เคยมีกำหนดการแน่นอนและไม่เคยมีลายลักษณ์อักษรถึงสโมสรว่า นักเตะที่ไปร่วมทีมชาติไทยจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยวันไหนและกี่โมง ทุกอย่างเป็นเรื่องที่สโมสรต้องไปตามต้องไปหาข้อมูลเอง เพื่อมาดำเนินการวางแผนฝึกซ้อมของสโมสร “สโมสรยอม”
หากสโมสรรู้แต่แรกว่า นักฟุตบอลจะเดินทางกลับมาถึงวันที่ 12 ตอนค่ำ ก็เป็นเรื่องยากที่สโมสรจะยอม พอสโมสรได้ข้อมูลนี้ขอให้สมาคมฯ พิจารณาวันแข่งขันใหม่ “สมาคมฯไม่ยอม”
สโมสรไม่ได้ขอให้สมาคมฯ พิจารณาแค่เรื่องเลื่อนไปแข่งวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน แต่ได้เสนอวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายนไว้ด้วย แต่สมาคมฯกับเอาแค่ข้อเสนอวันพุธที่ 2 ไปหารือกับสปอนเซอร์ ส่วนเรื่องจะมีแฟนบอลเมืองทองได้เข้าชมหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในข้อเรียกร้องที่สโมสรยื่นเรื่องเลื่อนการแข่งขัน คนละประเด็นกัน
สุดท้ายสมาคมฯ พูดถึงเรื่องการคืนตัวนักเตะกลับสโมสรตามระยะเวลาที่ฟีฟ่ากำหนด คือ 24 ชั่วโมง แต่เวลาเลื่อนฟุตบอลลีก เพื่อให้ทีมชาติไทยได้มีการเก็บตัวในหลายๆ ครั้งมากกว่าระยะเวลาฟีฟ่าเดย์ สโมสรให้ความร่วมมือตลอด สโมสรแห่งนี้ไม่เคยเอาเวลาฟีฟ่าเดย์มาอ้างกับสมาคมฯ เพื่อไม่ปล่อยตัวนักเตะ ไม่ว่าจะเรียกทีมชาติชุดใหญ่กี่คน ชุดเยาวชนกี่คน ปล่อยให้หมด (เพราะนอกจากทีมชาติไทยชุดใหญ่ในตอนนี้ ก็มีนักเตะของสโมสรที่ติดทีม ยู-19 และยู-21 ที่กำลังเดินทางไปแข่งขันในขณะนี้) แต่เมื่อถึงเวลาคืนตัวนักเตะกลับมาสโมสร สมาคมฯ อ้างเวลาตามฟีฟ่าเดย์ โดยไม่มองที่ความเป็นจริงว่า ระยะเวลาที่คืนตัวกลับให้สโมสรมีความเหมาะสมแค่ไหน (กลับคืน 12 วันที่ 13 ต้องพัก 14 ถึงจะกลับมาซ้อมกลับสโมสรได้ เพื่อลงแข่ง 15 นี่หรือคือความเหมาะสมที่สโมสรได้รับกลับมา)
สมาคมฯ ควรบริหารโปรแกรมให้เหมาะสมและวางแผนให้รอบครอบ ในโปรแกรมที่อัดแน่นตลอดเดือนตุลาคมนี้ หากสโมสรจำเป็นต้องใช้งานนักเตะที่ติดทีมชาติแบบไม่ให้พัก ย่อมส่งผลเสียกับทีมชาติไทยของพวกเราทุกคน และเสียหายใหญ่ต่อแมตช์ชี้ชะตากับออสเตรเลียในวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่จะตัดสินได้ว่า เราจะได้ลุ้นต่อไปหรือไม
สุดท้ายนี้ บางคำครหาที่ว่า สโมสรคนละขั้วกับสมาคม แต่เกือบหนึ่งปีมานี้ ภายใต้สมาคมยุคใหม่ สโมสรได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ที่ผ่านมาสโมสรได้ยอมแล้วทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทีมชาติไทย โดยไม่ได้สนว่าใครคือสมาคมฟุตบอลฯ
