คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า มร.พอล อีริค ฮอยเยอร์ ลาร์สเซ่น ประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก (บีดับเบิลยูเอฟ) ชาวเดนมาร์ก ส่งสารแสดงความอาลัยพร้อมแสดงความเสียใจกับประชาชนชาวไทย ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี ซึ่งบีดับเบิลยูเอฟสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ที่ทรงมีต่อวงการแบดมินตันมาอย่างยาวนาน จนปี พ.ศ.2555 ทูลเกล้าฯถวายอิสริยาภรณ์สูงสุด “เพรสซิเดนท์ เมดัล” ซึ่งเป็นเพียง 1 เดียวในโลกที่ได้รับรางวัลนี้
คุณหญิงปัทมากล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายแอนทอน อาดิตยา ซูโบโว ประธานสมาพันธ์แบดมินตันเอเชีย (บีเอซี) ได้ส่งสารแสดงความอาลัยมายังสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เช่นเดียวกับ ผู้บริหาร, ผู้ฝึกสอน และนักกีฬา ของสมาคมฯ รู้สึกเศร้าโศกเสียใจอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อกีฬาแบดมินตัน นับตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมฯ ปี พ.ศ.2493 จนปี พ.ศ.2500 ทีมแบดมินตันไทยเข้าไปถึงระดับแชมเปี้ยนโซนเอเชีย และเข้าไปชิงชนะเลิศของโลกในปี พ.ศ.2502 และ 2505 ทำให้หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์บันทึกว่า อาวุธลับความสำเร็จของทีมแบดมินตันไทย คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ซึ่งยุคนั้นพระองค์ได้ทรงสนับสนุนศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน จนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้วงการแบดมินตันไทยพัฒนาประสบความเร็จในปัจจุบันนี้
ขณะที่ศาสตราจารย์เจริญ อดีตนักแบดมินตันทีมชาติไทย และนายกสมาคมฯ ระหว่างปี พ.ศ.2545-2556 ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเคยได้รับพระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัย ซิตี้ ออฟ ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงมีต่อตนและวงการแบดมินตันไทย โดยเฉพาะตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ เมื่อปี พ.ศ.2545 ก็ทรงโปรดให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริษ์เข้ามาสนับสนุนกีฬาแบดมินตันเต็มรูปแบบ จนมีรากฐานที่ดี ทำให้ไทยมี 5 แชมป์เยาวชนโลก 2 แชมป์เอเชีย 1 แชมป์โลก และแชมป์ระดับนานาชาติอีกนับไม่ถ้วน
“ผมรู้สึกตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงเล่นและทรงสนับสนุนกีฬาแบดมินตัน ในอดีตสัปดาห์ละ 3 วัน ซึ่งมีพระปรีชาสามารถในกีฬาแบดมินตันไม่น้อย โดยเฉพาะลูกตบที่หนักหน่วง แบ๊กแฮนด์ และลูกโอเวอร์เฮดที่ยอดเยี่ยม เมื่อคู่พาร์ทเนอร์ของพระองค์เล่นเสียก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด เพียงแต่ตรัสว่า นั่นสิ เท่านั้น ซึ่ง หว่อง เป็ง สุน อดีตนักแบดมินตันระดับโลก ชาวสิงคโปร์ ก็เคยมาร่วมเล่นแบดมินตันกับพระองค์ และชื่นชมในพระปรีชาสามารถการทรงแบดมินตันเป็นอย่างมาก” ศาสตราจารย์เจริญกล่าว
สำหรับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงเคยรับสั่งกับผู้ใกล้เบื้องพระยุคลบาทด้านกีฬาว่า “กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่คนไทยสามารถจะไต่เต้าไปสู่ระดับโลกได้ เพราะไม่เสียเปรียบทางด้านรูปร่างและพละกำลังมากจนเกินไป เพียงแต่อาศัยความคล่องแคล่วว่องไวกับปฏิภาณไหวพริบของผู้เล่น คนไทยก็สามารถเอาชนะต่างชาติได้ไม่ยาก”
