พระมหากรุณาธิคุณ ปัจจัยความสำเร็จของแบดมินตันไทย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระราชหฤทัยในกีฬาแบดมินตันอย่างมาก เรียกได้ว่าพระองค์ท่านทรงให้การอุปถัมภ์จนแบดมินตันเป็นกีฬาที่สร้างความสำเร็จและความสุขให้กับประเทศไทยอย่างสูงในทุกวันนี้

ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน หนึ่งในนักแบดมินตันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการแบดมินตันโลก ทั้งในการเป็นนักกีฬาและผู้บริหาร ได้มีโอกาสถวายงาน และถวายทรงกีฬาแบดมินตันแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศอยู่เป็นประจำ

ศ.เจริญเล่าว่า ครั้งแรกที่รู้ว่าจะได้ไปถวายงานยอมรับว่าตื่นเต้นมาก คืนก่อนที่ต้องเข้าไปตีแบดกับพระองค์ด้วยนั้นนอนไม่หลับเลย เพราะตนเป็นนักกีฬาที่มาจากต่างจังหวัด พอได้ทราบว่าในหลวงทรงสนพระราชหฤทัยก็ตื่นเต้น ในช่วงแรกที่ถวายงาน พระองค์ท่านทรงซักถามรายละเอียดมากมาย พระองค์ท่านทรงแบดมินตันได้ดีมาก ตบได้รุนแรง รวมทั้งลูก 45 องศา หลังจากเล่นแบดเสร็จ ท่านได้พระราชทานเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวหาบที่สั่งมาจากหลานหลวง ท่านก็เสวยพร้อมกันไปด้วยเหมือนสามัญชน

 

Advertisement

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศรับสั่งกับผู้ใกล้เบื้องพระยุคลบาทว่า กีฬาแบดมินตัน เป็นกีฬาหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่คนไทยสามารถจะไต่เต้าไปสู่ระดับโลกได้ เพราะไม่เสียเปรียบทางด้านรูปร่าง และพละกำลังมากจนเกินไป เพียงแต่อาศัยความคล่องแคล่วว่องไว กับปฏิภาณไหวพริบของผู้เล่นคนไทยก็สามารถเอาชนะต่างชาติได้ไม่ยาก

อดีตนักแบดมินตันแชมป์โลกย้อนความหลังไปอีกว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงแบดมินตันอย่างสม่ำเสมอในอดีต สัปดาห์ละประมาณ 3 วัน แบ่งข้างละ 3 คน มีคนอยู่ด้านหน้า 2 คน และพระองค์โปรดที่จะยืนในแดนหลัง เพื่อจะได้คุมเกมและตบได้ เป็นวาสนาสูงสุดในชีวิตที่ได้ถวายงานให้พระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นนักกีฬา และเป็นกษัตริย์ที่รักกีฬามากที่สุดในโลก

2

Advertisement

ในยุคนั้นนักตบขนไก่ไทยผูกปีแพ้นักแบดอินเดียมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ในครั้งนั้นพระองค์เสด็จฯไปทอดพระเนตรการแข่งขัน ชัยชนะเป็นของนักกีฬาไทยในที่สุด เจริญ วรรธนะสิน นำทีมคว้าชัยได้สำเร็จ

“พอรู้ว่าในหลวงจะเสด็จฯมาทอดพระเนตร ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องเอาชนะให้ได้ เพราะไม่อยากให้ท่านผิดหวัง พระบารมีของในหลวงถือเป็นแรงบันดาลใจส่งให้ไทยชนะอินเดียได้ในวันนั้น” ศ.เจริญย้อนความจำ

ศ.เจริญได้รับทุนพระราชทานส่วนพระองค์ให้ไปศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจ วิทยาลัยซิตี้ออฟลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ถือเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้ทุนพระราชทานส่วนพระองค์ในการศึกษาต่อต่างประเทศ

“ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้ทุนพระราชทาน วันที่ผมไปกราบถวายบังคมลา ในหลวงรับสั่งว่าให้ไปศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของเขา แล้วกลับมาปรับปรุงชีวิตของตัวเอง ซึ่งผมนำมาใช้ตลอดชีวิต และหลังจากกลับมาพระองค์รับสั่งว่าการจะรับใช้ประเทศชาติไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการเท่านั้น แต่ต้องนำความรู้ที่ไปศึกษามาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ดังนั้นช่วยดูแลวงการแบดมินตันก็แล้วกัน นี่คือเหตุผลที่ตลอด 60 กว่าปีที่ผ่านมา ผมยังอยู่ในวงการแบดมินตัน”

ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน
ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นองค์อุปถัมภกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2497 รวมทั้ง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา ประทานพระอุปถัมภ์เช่นกัน

ทำให้นักแบดมินตันไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด การแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลกประเภททีมชาย “โธมัสคัพ” ไทยครองแชมป์เอเชียที่ประเทศสิงคโปร์ และในการแข่งขันออล-มาลายัน 1958 ที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ทีมนักกีฬาไทยครองแชมป์ทั้งหญิงเดี่ยว, ชายเดี่ยว และชายคู่

5

ศ.เจริญเคยเขียนในบทความ “บรมครูแห่งแบดมินตัน” ในหนังสือ “ราชภัฏเฉลิมพระเกียรติ” ว่า “ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านรับสั่งถามว่า หนักใจไหมที่เล่นกับเออร์แลนด์ คอปส์ และที่หนักใจนั้น หนักใจในการเล่นแบบไหนของคอปส์ จำได้ว่ากราบบังคมทูลพระองค์ท่านว่า เออร์แลนด์ คอปส์ มีลูกตบที่รุนแรง ที่เสียแต้มให้คอปส์ ส่วนมากเป็นเพราะรับลูกตบที่หนักหน่วงไม่ได้ และคอปส์ยังมีพละกำลังมาก อึดและอดทน ยิ่งเล่นก็ยิ่งมีกำลังมาก ยังจดจำใส่เกล้าใส่กระหม่อมตราบเท่าทุกวันนี้ พระองค์ท่านรับสั่งว่า ‘เมื่อคอปส์มีลูกตบที่หนักและรุนแรง สิ่งที่ควรจะทำคือ หลีกเลี่ยงอย่าให้คอปส์ตบลูกได้บ่อย หรือใช้ลูกตบได้ถนัด ควรดึงคอปส์มาเล่นลูกหน้าให้มาก เมื่อเขาพะวงบริเวณหน้าตาข่าย จะทำให้เขาถอยตบลูกไม่ถนัด’ และนั่นคือกลยุทธ์ที่ผู้เขียนใช้ปราบมือแชมเปี้ยนโลกชาวเดนมาร์กผู้นี้ ในการป้องกันตำแหน่งแชมเปี้ยนชายเดี่ยวออล-มาลายัน ที่เกาะสิงคโปร์เมื่อ พ.ศ.2502”

“ในยุคที่บุกเบิกโธมัสคัพ นักแบดไทยประสบความสำเร็จอย่างมาก สื่ออินโดนีเซียและมาเลเซียยกย่องว่า สยามมีอาวุธลับของแบดมินตัน คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระราชทานการสนับสนุนจนทำให้กีฬาแบดมินตันของไทยก้าวไประดับโลกได้ ในปี พ.ศ.2545 ที่ผมมาเป็นนายกสมาคมสมัยแรก ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในช่วงนั้น ได้บอกกับผมว่า ในหลวงรับสั่งว่าให้ไปช่วยเจริญ และบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเงินมากนัก ความสำเร็จของแบดมินตันไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาจากพระบารมีของพระองค์โดยแท้จริง”

พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต่อวงการแบดมินตัน ไม่ได้รับรู้แค่ในวงแคบ แต่สหพันธ์แบดมินตันโลก ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดในวงการตบขนไก่โลกได้ทูลเกล้าฯ ถวายอิสริยาภรณ์สูงสุด “เพรสซิเดนท์ เมดัล” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เมื่อปี พ.ศ.2555 ที่ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวในโลก ที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์แก่กีฬาแบดมินตันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพระองค์และพระราชวงศ์ทรงให้กำลังใจทีมแบดไทยหลายครั้ง

ความสำเร็จของกีฬาแบดมินตันไทยจากอดีตจนถึงทุกวันนี้มาจากพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ และจะถูกจดจำไปตลอดกาล

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image