หลังเกมลิเวอร์พูลเจ๊าแมนฯยูไนเต็ด 0-0 ‘มู’ไม่สนทีมตัวเองเล่นอุด ปัญหาคือ‘หงส์แดง’ยิงไม่ได้เอง

โจเซ่ มูรินโญ่ (ภาพ AFP)

เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 นัดที่ 8 แต่เป็นศึก “แดงเดือด” ครั้งที่ 197 จากทุกรายการที่ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ที่สนามแอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ด้วยรูปเกมที่เต็มไปด้วยความจืดชืด

แม้ทั้งคู่จะมีโอกาสทำประตูอย่างจะแจ้งฝั่งละ 2 ครั้ง ซึ่งแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบนำไปก่อนถึง 2-0 จากจังหวะที่โลริส คาริอุส นายทวารตัวใหม่ลิเวอร์พูลเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมพลาดในช่วง 4 นาทีแรกของครึ่งหลัง ไปเข้าเท้าป๊อกบาที่ส่งต่อให้ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แต่โชคดีที่ฝ่ายหลังยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ตามด้วยการโหม่งโล่งๆ แต่ไม่เข้ากรอบของอิบราฮิโมวิชใน 5 นาทีต่อมา

ขณะที่ลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากการยิงจ่อๆ ของชานในนาที 59 แต่ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดได้อย่างเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับจังหวะที่มือกาวทีมชาติสเปน ป้องกันลูกยิงของฟลิปเป้ คูตินโญ่ ในช่วง 19 นาทีสุดท้าย ทว่าเกมส่วนใหญ่กลับน่าเบื่อ เนื่องจากมูรินโญ่วางหมากให้ทีมเน้นเกมรับ และบีบไม่ให้กองหลังลิเวอร์พูลตั้งเกมให้กองกลางได้ จนต้องเปิดบอลยาวซึ่งไม่ผ่านนักเตะสูงใหญ่แมนฯ ยูไนเต็ดอย่างเฟลไลนี่, เอริก ไบญี่ และคริส สมอลลิ่ง

จบเกมเสมอกัน 0-0 แต่ลิเวอร์พูลเก็บเพิ่มอีก 1 คะแนน มี 17 แต้มจาก 8 นัด อยู่อันดับ 4 ตามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง 2 แต้ม ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด มี 14 แต้ม อยู่ที่ 7 จากการแข่งเท่ากัน

Advertisement

ส่วนบทสัมภาษณ์โค้ชหลังเกม มูรินโญ่ไม่สนสถิติระหว่างเกมที่มีการบันทึกจาก “อ็อปต้า” ว่า แมนฯ ยูไนเต็ดครองบอลได้แค่ 35 เปอร์เซ็นต์ น้อยที่สุดตั้งแต่ที่อ็อปต้าเริ่มทำสถิติในศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2003-04 หลังอ้างว่าฤดูกาลที่แล้ว หลุยส์ ฟาน กัล ก็คุมแมนฯ ยูไนเต็ดบุกมาคว้าชัยในเกมลีกที่แอนฟิลด์ 1-0 จากการยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว ผิดกับลิเวอร์พูลที่มีโอกาสมากถึง 14 ครั้ง ขณะที่วันนี้ลิเวอร์พูลยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง จากการครองบอล 65 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น มันจึงไม่ใช่ปัญหาของแมนฯ ยูไนเต็ด แต่เป็นปัญหาของลิเวอร์พูลต่างหาก

มูรินโญ่ยังกล่าวต่อไปว่า เท่าที่ได้รับข้อมูลจากทีมงานตัวเอง ปรากฏว่าแมนฯ ยูไนเต็ดครองบอลได้ 42 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 35 เปอร์เซ็นต์อย่างที่เข้าใจกัน แล้วลิเวอร์พูลก็ไม่ใช่ทีมมหัศจรรย์เหมือนที่พวกสื่อมวลชนยกย่องว่าเป็นทีมที่มีเกมรุกสุดเหวี่ยงอีกด้วย

ด้านคล็อปป์ยอมรับว่าหลังจากเริ่มเกมขึ้นมาแล้วรู้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ดตั้งใจมาอุดประตู นักเตะลิเวอร์พูลก็ไม่กล้าพอที่จะทำเกมรุกเข้าใส่เหมือนหลายเกมก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเสียสมาธิกับการเล่นเน้นรับที่ชวนทะเลาะของอีกฝ่ายเร็วเกินไป จนส่งผลให้การเล่นบอลบนพื้นที่ทีมถนัดไม่มีประสิทธิภาพในเกมนี้ และแม้ลูกทีมของตนจะครองบอลได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ แต่ทุกคนควรทำได้ดีกว่านี้ และต้องนิ่งกว่านี้เวลาโดนคู่ต่อสู้วิ่งเข้ากดดัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image