ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติให้ยุติการแข่งขันฤดูกาล 2016 และให้จับสลากหาโควต้าในฟุตบอลถ้วย และดิวิชั่น 2 โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาตกลง และจับสลากหาสิทธิ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชั้น 3 อาคารพงษ์สุภี
ผลการจับสลากในฟุตบอลถ้วย “ช้าง เอฟเอ คัพ 2016” ซึ่งทั้ง 4 ทีมครองแชมป์ร่วมกัน โดยได้จับสลาก 1 ทีมไปแข่งขัน “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017” เรียงลำดับดังนี้ 1.สุโขทัย เอฟซี 2.ชัยนาท ฮอร์นบิล 3.ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 4.ชลบุรี เอฟซี ซึ่งสละสิทธิไม่จับสลาก ทั้งนี้ สโมสรจะต้องผ่านการตรวจคลับไลเซนซิ่งของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) โดยจะเรียงตามลำดับลงไป และไม่มีการโยกย้ายโควต้ากลับไปยังอันดับ 3 ของฟุตบอลลีก
นายเทพพรส เจริญผล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สโมสรสุโขทัย กล่าวว่า หลังจากได้สิทธิมาแล้วจะนำเรื่องเสนอกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานสโมสร เพื่อทำแผนเตรียมความพร้อมต่อไป ส่วนเรื่องคลับไลเซนซิ่ง คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะได้ทำตามคำสั่งของสมาคมฯ เป็นอย่างดี ขณะที่สนามแข่งขันอาจจะขอใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นรังเหย้า ด้านตัวผู้เล่นคิดว่าทีมมีความพร้อมในระดับหนึ่ง และคงต้องรอดูแผนเสริมทัพอีกครั้ง
ขณะที่ฟุตบอลถ้วย “โตโยต้า ลีกคัพ 2016” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ครองแชมป์ร่วมกัน และจะนำเงินรางวัลแชมป์และรองแชมป์มารวม ก่อนจะแบ่งให้ทั้งสองทีม ส่วนโควต้าฟุตบอลถ้วยนั้น ทั้งสองทีมสามารถตกลงกันได้ โดยบุรีรัมย์จะไปป้องกันแชมป์ “โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ 2016” ขณะที่เมืองทองจะไปแข่งขันรายการ “โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 2017”
ด้านการจับสลากทีมจากศึก “เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2” รอบแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ เพื่อหา 3 ทีมเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2017 ปรากฏว่า อันดับ 1.ตราด เอฟซี 2.เกษตรศาสตร์ เอฟซี 3.หนองบัว พิชญ เอฟซี 4.สุราษฎร์ธานี เอฟซี โดย 3 อันดับแรกจะมีการตรวจคลับไลเซนซิ่งก่อน ซึ่งหากไม่ผ่านสิทธิจะตกไปที่สุราษฎร์ธานีต่อไป
นายรังสรรค์ มธุรเมธาวี ประธานสโมสรสุราษฎร์ธานี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทั้ง 4 ทีมยอมรับมติที่ประชุมทั้งหมด เพียงแต่ก่อนหน้านี้ได้เจรจากันว่าขอไม่จับสลาก แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก เพราะแต่ละทีมทุ่มงบมหาศาลในการทำทีม โดยเฉพาะสุราษฎร์ธานี ที่ถูกแบน จนได้สิทธิกลับคืน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เสียความรู้สึก แต่จะยอมรับผลการตัดสินโดยดี ไม่ฟ้องแต่อย่างใด ขอแค่อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกก็พอ
นอกจากนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังได้ประกาศผลการตรวจคลับไลเซนซิ่ง โดยในโตโยต้า ไทยลีก จาก 18 สโมสร มี 1 สโมสรที่ไม่ผ่านคลับไลเซนซิ่งคือ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ส่วน ยามาฮ่าลีก ดิวิชั่น 1 จาก 16 สโมสร มี 2 สโมสรที่ไม่ผ่านคือ ประจวบ เอฟซี และนครปฐม ยูไนเต็ด ซึ่งทั้ง 3 ทีมมีเวลาถึงวันที่ 25 ตุลาคม เพื่อส่งเอกสารให้เรียบร้อย และมีเวลาอุทธรณ์อีก 5 วัน ดังนั้นเดดไลน์จะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อนำเอกสารส่งให้กับเอเอฟซี ส่วนสุโขทัยที่ได้เล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกนั้นจะต้องตรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ผ่านคลับไลเซนซิ่งเอเอฟซีต่อไป
