พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดแถลงข่าวหลังชนะการเลือกตั้งว่า ขอบคุณตัวแทนฟีฟ่า, เอเอฟซี และเอเอฟเอฟ รวมถึง กกท.และคณะกรรมการกลางที่จัดการเลือกตั้งให้ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งตัวเองและทีมงานจะบริหารงานสมาคมอย่างเต็มความสามารถด้วยการร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันตัดสินใจ และร่วมกันรับผิดชอบเพื่อนำพาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าตามที่แฟนบอลชาวไทยอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยจะเร่งดำเนินงานตามนโยบายและคำมั่นสัญญาที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ หากมีสิ่งบกพร่องก็ขอให้คอยเตือนและท้วงติงได้ เพราะนโยบายของทีมงานตัวเองนั้นเปิดกว้าง และจะเน้นความความถูกต้อง โปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้
ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า เตรียมจะประชุมทีมงานในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อวางกรอบแนวทางทำงาน โดยได้วางโครงสร้างทีมงานแบ่งหน้าที่กันทำงานให้ชัดเจน และจะเริ่มดำเนินงานทันที โดยจะให้สโมสรสมาชิกมีส่วนร่วมกับการบริหาร ส่วนโสมสรที่ไม่ได้สนับสนุนตัวเองนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกัน เพราะทุกสโมสรจะร่วมกันเข้ามาทำงานโดยเฉพาะดิวิชั่น 2 จะช่วยหาเงินมาสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาสโมสรเจอปัญหาเรื่องการเงินตลอด ส่วนโสมสรที่ไม่ได้สนับสนุนตัวเองนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกัน เพราะทุกสโมสรจะร่วมกันเข้ามาทำงาน ทุกสโมสรโดยเฉพาะดิวิชั่น 2 จะช่วยหาเงินมาสนับสนุน เพราะที่ผ่านมาสโมสรเจอปัญหาเรื่องการเงินตลอด ซึ่งไม่กังวลคลื่นใต้น้ำ เพราะคะแนนเลือกตั้งชัดเจนอยู่แล้ว
“ผมคิดว่ายังไงผมก็ได้ไม่ต่ำกว่า 60 เสียงแน่นอน เพราะมั่นใจในนโยบาย 5 แฟร์ที่โดนสโมสรสมาชิก และแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศ ผมไม่ได้โอ้อวด แต่ผมมีมั่นใจมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะเป็นผู้ชนะในวันนี้ ผมเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ด้วยความเสียสละ ผมจะเข้ามาทำให้คนในครอบครัวฟุตบอลกลับมาพูดคุยกันด้วยดี ซึ่งต้องขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่มีสปิริตแสดงความยินดีกับผมหลังได้รับตำแหน่งแล้ว”
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาต่างๆ จะเร่งดำเนินการทันทีทั้งเรื่องลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ที่มีปัญหาไม่ลงเตะ เพราะที่ผ่านมามีการโต้แย้งสิทธิ และยังไม่ลงตัว ขณะที่โครงสร้างของบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด (ทีพีแอล) รวมถึงลีกภูมิภาคก็จะเปลี่ยนแปลงใหม่ แต่อะไรที่ดีก็จะคงไว้ โดยจะใช้โครงสร้างเดียวกันทั้งหมดให้สโมสรมีส่วนร่วมในการบริหาร ส่วนตำแหน่งต่างๆ รวมถึงเลขาธิการสมาคมมีอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่จะขอปรึกษาทีมงานก่อน เพราะไม่อยากทำงานคนเดียว และจะขอปรึกษากับฝ่ายกฏหมายในเรื่องสิทธิประโยชน์ และการทำนิติกรรมต่างๆ ด้านวงการผู้ตัดสินก็จะเชิญผู้ที่มีความรู้เข้ามาร่วมทำงานเพื่อสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในวงการเชิ้ตดำ สำหรับทีมชาติไทยนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จากตำแหน่งผู้ฝึกสอนอย่างแน่นอน และตั๋วผีจะต้องไม่มีอีกต่อไป ด้านที่ทำการของสมาคมฟุตบอลฯ จะย้ายมาอยู่ที่ กกท. ชั้น 16
