‘เป๊ป’ชี้ลูกตีเสมอ ‘เปลี่ยน’ ทุกอย่าง หลัง‘เรือ’เอาคืนถล่ม‘บาร์ซ่า’

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (ภาพ AFP)

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2016-17 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปรากฏว่า ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แก้แค้นบาร์เซโลน่าด้วยการเปิดบ้านถล่ม 3-1 ในเกมกลุ่มซี ส่วน “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด รองแชมป์เก่า และ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ทีมร่วมกลุ่มดี เป็น 2 ทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย

แมนฯ ซิตี้ ที่มีเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตกุนซือบาร์เซโลน่าคุมทีม และบุกโดนอดีตทีมเก่าตัวเองถล่มกลับมาในเกมก่อนหน้านี้ 4-0 ไม่มีเคลาดิโอ บราโว่ นายทวารที่ติดโทษแบนจากการโดนไล่ออกเกมที่แพ้เละเทะ และแว็งซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมที่เพิ่งหายเจ็บยาวเป็นแค่ตัวสำรอง แต่ “บาร์ซ่า” ที่ชนะแมนฯ ซิตี้ 5 เกมติด ขาด 3 ตัวหลักอย่างเคราร์ด ปิเก้, ฆอร์ดี้ อัลบา และอันเดรส อิเนียสต้า ตามด้วยเฌเรมี่ มาติเยอ และอเล็กซ์ บิดัล ที่เจ็บทั้งหมด

แม้แมนฯ ซิตี้ ที่เพิ่งชนะแค่นัดเดียวจาก 7 เกมหลังสุดจากทุกรายการในเกมลีก 3 วันก่อนหน้านี้ จะเสียประตูให้บาร์ซ่าไปก่อนจากการโต้กลับของลิโอเนล เมสซี่ ตั้งแต่ 21 นาทีแรก ทั้งที่ 10 นาทีก่อนหน้านั้น เจ้าถิ่นควรได้จุดโทษจากจังหวะที่ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ถูกซามูเอล อุมติตี้ กองหลังทีมเยือนทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอ 1-1 ช่วง 6 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก จากความผิดพลาดของเซร์กี้ โรเบร์โต้ แบ๊กขวาบาร์ซ่า ก่อนอิลคาย กุนโดกัน เป็นคนยิงเข้าไป

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ได้อีก 2 ประตูจากฟรีคิกเควิน เดอ บรอยน์ นาที 51 และลูกปัญหาที่บอลโดนแขนเซร์คิโอ “กุน” อากูเอโร่ ไปเข้าทางกุนโดกันซ้ำย้ำชัย 3-1 ส่งผลให้แมนฯ ซิตี้มี 7 คะแนนจาก 4 นัด อยู่อันดับ 2 กลุ่มซี ตามบาร์ซ่าจ่าฝูง 2 คะแนน

Advertisement

จบเกม เป๊ปที่เป็นคนนครบาร์เซโลน่าโดยกำเนิด รวมทั้งเคยเป็นตำนานนักเตะ และคุมบาร์ซ่าคว้าแชมป์รายการสำคัญได้ถึง 14 ครั้งภายในระยะเวลาแค่ 4 ปี ยืนยันว่าประตูแรกที่แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอได้เป็นจุดเปลี่ยนทุกอย่าง หลังโดนบาร์ซ่าครองเกมอยู่นานถึงครึ่งชั่วโมง ส่วนครึ่งหลังทีมได้จังหวะโต้กลับจนเกือบเป็นประตูหลายครั้ง แต่โดยรวมแล้วพอใจผลงานลูกทีมเป็นอย่างมาก และเป็นครั้งแรกที่แมนฯ ซิตี้ชนะทีมที่ดีที่สุดในโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image