นายปริวัฒน์ วรรณกลาง อธิการบดีสถาบันการพลศึกษา (สพล.) เปิดเผยถึงการคืบหน้าการตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติว่า ตอนนี้ได้ส่งร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ พ.ศ…. ผ่านทาง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานกีฬาชาติให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่ทาง สพล.ได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับการยกระดับเอาไว้แล้ว คือ การเตรียมจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัย รวมถึงคณะใหม่คือ คณะเทคโนโลยีทางการกีฬา ที่จะมีการเรียนการสอนเรื่องนวัตกรรมทางการกีฬา นอกจากนั้นยังเตรียมเปิดรับบุคลากรเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 อัตรา ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเตรียมรองรับการยกระดับด้วย เดิมทีคาดว่าในเดือนมิถุนายนปีหน้าจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติได้ แต่อาจจะมีการล่าช้าไป 3 เดือน ซึ่งการยกระดับครั้งนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทุกวิทยาเขตได้รับทราบ เพราะถ้า พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ พ.ศ…. ผ่านแล้ว นักศึกษาจะจบการศึกษาในชื่อบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ รวมถึงจะได้ช่วยกันปรับปรุงหลักสูตรรองรับด้วย
นายปริวัฒน์กล่าวต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ สพล.ได้มีการไปลงนามในบันทึกช่วยจำ (เอ็มโอยู) กับสถาบันเอกชนของประเทศเยอรมนี ที่มีความโดดเด่นในเรื่องชีวกลศาสตร์ รวมถึงเซ็นเอ็มโอยูกับมหาวิทยาลัยไลป์ซิก ที่มีความชำนาญเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อจะได้ร่วมมือกันพัฒนาวิทยาศาสตร์การกีฬาให้ดีขึ้น และในเดือนมิถุนายนปีหน้า ทั้งสองสถาบันจะมาจัดอบรมให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติแบบครบวงจรที่ประเทศไทย
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คงต้องใช้เวลาในการเตรียมพร้อมระดับหนึ่ง เพราะมีรายละเอียดที่ต้องทำอีกมาก แต่ในปีหน้าก็น่าจะมีการยกระดับเป็นที่เรียบร้อย” อธิการบดี สพล.กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน สพล.มีทั้งหมด 17 วิทยาเขตทั่วประเทศ และจะนำมารวมเป็นมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติเพียงแห่งเดียว แต่จะแบ่งการบริหารจัดการออกเป็น 4 ภูมิภาค มีอธิการบดี 4 คน เป็นผู้บริหารสูงสุด ซึ่งในตอนนี้มีการเรียนการสอน 3 คณะ คือ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, คณะศึกษาศาสตร์, คณะศิลปศาสตร์
