หลังจากที่สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล และอาร์มี่ ยูไนเต็ด สองทีมที่ตกชั้นจากโตโยต้า ไทยลีก เข้ามาร้องเรียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ในกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลสั่งยุติการแข่งขันฟุตบอลลีก และทำให้ทั้งสองทีมต้องตกชั้นนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เข้าชี้แจงกับคณะอนุกรรมการพิจารณาการร้องทุกข์ กกท. ที่มี พล.อ. เสรี วงศ์ประจิตร เป็นประธาน
ภายหลังการประชุม พล.อ.เสรี กล่าวว่า ทั้ง 2 สโมสร มีเห็นชอบที่ให้ยุติการแข่งขัน แต่ต้องการให้พิจารณาในบทสรุปใหม่ โดยต้องการให้มีการเพิ่มเป็น 20 ทีม ซึ่งทางสมาคมได้เข้ามาชี้แจงว่าการปฏิบัติต่างๆ เป็นไปตามข้อบังคับ และถ้าหากจะเพิ่ม 20 ทีมจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น อีกทั้งเวลาการแข่งขันต้องปรับใหม่ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเชิญทั้งสองฝ่ายมาประชุมร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
“ทางคณะกรรมการจะไม่มีส่วนในการตัดสินใจของสมาคม เพราะให้สิทธิในการดูแลสโมสรต่างๆ หลังจากที่พูดคุยกันแล้ว หากไม่สามารถคุยกันได้ลงตัว ก็คงต้องดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน” พล.อ.เสรีกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าวว่า การเพิ่มเป็น 20 ทีมนั้นต้องอยู่ที่สโมสรทั้งหมดจะเห็นด้วยหรือไม่ เรื่องเหล่านี้ต้องนำไปหารือกันในสภากรรมการ อย่างไรก็ตามสมาคมฯ ไม่ได้กลัวเรื่องการฟ้องร้องต่างๆ เพราะทุกอย่างที่ทำไปมีกฎเกณฑ์รองรับทั้งหมด
“หากสโมสรไปฟ้องศาลในประเทศ ทางสมาคมก็จะใช้อำนาจที่มีอยู่ เหมือนที่ผ่านมา ส่วนการตัดสินทั้งหมด เราได้หารือกับฟีฟ่า และ เอเอฟซี แล้ว และก็ทำตามช้อบังคับทั้งหมด แต่ทุกสโมสรก็สามารถใช้สิทธิได้เต็มที่ก็อยู่ที่การพิจารณา” พ่อบ้านสมาคมฟุตบอลกล่าวปิดท้าย
