ทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ลงสนามทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มบี นัดที่ 5 พบกับ “ซอคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน
เกมวันนี้ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีการปรับแผนครั้งใช้ หันมาใช้ระบบ 3-4-1-2 เป็นครั้งแรก โดยมี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 3 คน อดิศร พรหมรักษ์, ประทุม ชูทอง และธนบูรณ์ เกษารัตน์ วิงแบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน วิงแบ๊กขวา ทริสตอง โด มิดฟิลด์คู่กลาง สารัช อยู่เย็น กับปกเกล้า อนันต์ โดยมี “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกหลังกองหน้าคู่ สิโรจน์ ฉัตรทอง กับ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา
ด้านออสเตรเลียของกุนซือ อังเก้ ปอสเตโคกลู จัด 11 ตัวจริง ประกอบด้วย แมทธิว ไรอัน เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง มิลอส ดีเกเน็ค, แบรด สมิธ, แมทธิว สปิราโนวิช, เทรนต์ เซนบิวรี่ กองกลาง ไมล์ เยดินัค, อาร่อน มูย, โทมัส โรจิช กองหน้า เจมี่ แม็คคลาเรน, ร็อบบี้ ครูส, แมทธิว เล็กกี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนบอลไทยเริ่มทยอยเดินทางมาถึงสนามตั้งแต่ในช่วงเวลาบ่าย ก่อนที่กลุ่มแฟนบอล “เชียร์ไทยพาวเวอร์” จะนำแฟนบอลแปรอักษรเป็นตัวเลข ๙ พร้อมกับจุดเทียน เพื่อถวายความอาลัยแด่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่นักฟุตบอลทีมชาติไทย ได้แปรอักษรเป็นเลข ๙ ในสนามเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะลงมาวอร์มอัพในสนามแข่งขัน จากนั้นหลังจากวอร์มอัพเสร็จ แฟนบอลในสนามกว่า 25,000 คน ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีด้วยกัน
แค่เริ่มเขี่ยบอล ออสเตรเลียก็ได้โอกาสยิงครั้งจากจังหวะที่ แมทธิว เล็กกี้ ได้หลุดเข้าไปยิง แต่กวินทร์ ยังเซฟไว้ได้
นาทีที่ 8 ไทยเสียลูกโทษ หลังจากที่ประทุม ชูทอง พุ่งเข้าไปบล็อกลูกแต่บอลไปโดนแขน ทำให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกจุดโทษพร้อมกับให้ใบเหลืองประทุม ก่อนที่มีเล่ เยดินัค จะซัดไม่พลาด ให้ออสเตรเลียออกนำไทย 1-0
นาทีที่ 20 ไทยทำประตูตีเสมอได้ จากจังหวะที่ชนาธิป จ่ายทะลุช่องให้ทริสตอง โด หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนเปิดให้ธีรศิลป์ได้ชาร์จ เข้าประตูไปให้ไทยไล่มาเป็น 1-1
นาทีที่ 34 ออสเตรเลียขึ้นเกมบุกมาอีกครั้ง ก่อนที่ร็อบบี้ ครูส จะได้โอกาสยิงในเขตโทษ แต่บอลเข้าข้างตาข่ายไป
ช่วงท้ายครึ่งแรก ออสเตรเลียพยายาามบอมบ์ลูกโด่งใส่ไทยอย่างต่อเนื่อง แต่เกมรับไทยยังเล่นได้อย่างเหนียวแน่น จบครึ่งแรกไทยเสมอกับออสเตรเลีย 1-1
เริ่มครึ่งหลังมาได้นาทีเดียว ไทยได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลแต่ธีราทรซัดไปติดกำแพง
จากนั้นเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกหนัก ได้โอกาสอีกครั้งในนาทีีที่ 54 จากจังหวะที่ชนาธิปครองบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนสิโรจน์ได้เปิดบอลเลยไปถึงทริสตอง ตบกลับให้สารัชพยายามเข้าชาร์จ แต่แนวรับออสซี่พุ่งมาบล็อกได้ก่อน
ทว่านาทีที่ 56 ไทยได้ลูกที่จุดโทษจากจังหวะที่ธีราทรโดนทำฟาล์ว และเป็นธีรศิลป์รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ไทยขึ้นนำออสเตรเลีย 2-1
นาทีที่ 61 ออสเตรเลียได้ลูกเตะมุม เยดินัค ได้โหม่งเต็มๆ แต่กวินทร์โซว์ซุปเปอร์เซฟพุ่งปัดไว้ได้
แต่ในนาทีที่ 64 ไทยเสียลูกจุดโทษที่ 2 ของเกม จากจังหวะที่ผู้ตัดสินมองว่าธนบูรณ์ ไปดึงผู้เล่นออสเตรเลียในเขตโทษ และเยดินิค คนเดิมสังหารไม่พลาดให้ออสเตรเลียตีเสมอไทย 2-2
ไทยยังเปิดเกมบุกสวนกับออสเตรเลียได้อย่างสนุก ก่อนที่นาทีที่ 80 จะเปลี่ยนตัวคนแรก ส่งนัสตพล มาลาพันธ์ ลงมาเล่นแทนอดิศร พรหมรักษ์ ถัดมา 5 นาที ไทยน่าได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่สิโรจน์หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ยิงไปติดตัวนายทวารจิงโจ้
นาทีสุดท้าย ไทยเปลี่ยนตัวส่งรุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ลงเล่นแทนสิโรจน์ และได้โอกาสบุกหนักอีกครั้ง แต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกมไทยเสมอออสเตรเลีย 2-2 เก็บแต้มแรกในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ญี่ปุ่น ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-1 สรุปตารางคะแนนกลุ่มบี ซาอุดีอาระเบียเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม มี 10 คะแนนเท่ากับญี่ปุ่น แต่ประตูได้เสียดีกว่า ส่วนออสเตรเลียเป็นอันดับ 3 มี 9 คะแนน ไทยยังรั้งบ๊วยมี 1 คะแนนจาก 5 นัด
ธีรศิลป์กล่าวว่า เสียดายที่ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่ก็ทุ่มเทเต็มที่แล้ว ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยทุกคนที่คอยให้กำลังใจเสมอ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะแพ้รวดมา 4 นัด
