สวิตเซอร์แลนด์ : ขอผลซ้ำรอยจากรัสเซียได้หรือไม่?
ทีม “แดนนาฬิกา” สวิตเซอร์แลนด์ อาจจะไม่ใช่ทีมชั้นนำที่มีโอกาสถึงการลุ้นแชมป์ แต่ช่วงหลังพวกเขามักจะได้มาวาดลวดลายในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอยู่เสมอ
พวกเขาทำสถิติคว้าตั๋วรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกันได้เป็นหนแรก แถมในรอบคัดเลือกพวกเขายังมีผลงานไม่แพ้ใครเลยตลอด 8 เกมที่ลงเล่น คว้าแชมป์กลุ่มและยังส่งแชมป์ยุโรปอย่าง “อัซซูรี่” อิตาลี ไปเล่นเพลย์ออฟ
หลังจากจบศึกยูโร 2020 เมื่อปีก่อนมานั้น สวิตเซอร์แลนด์มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อวลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช อำลาตำแหน่งไป ซึ่งพวกเขาก็ได้ มูรัต ยาคิน อดีตกองหลังชุดยูโร 2004 เข้ามารับหน้าที่พร้อมด้วยพี่ชายอย่าง ฮาคาน ยาคิน มาเป็นหนึ่งในทีมสต๊าฟโค้ชด้วย
แน่นอนว่าการมาคุมทีมฟุตบอลโลกครั้งแรก คงต้องมีคำถามถึงเรื่องประสบการณ์และการแก้เกมต่างๆ ที่อาจจะต้องรอหาคำตอบในทัวร์นาเมนต์กัน
จุดเด่นที่สำคัญเลยของสวิตเซอร์แลนด์คือการเล่นร่วมกันเป็นทีม เพราะพวกเขาอาจจะไม่ได้มีสตาร์เด่นชัด แต่ทุกคนต่างพร้อมจะวิ่งช่วยกันเพื่อทำให้ทีมได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ อีกทั้งชุดนี้ยังเล่นด้วยกันมาเป็นเวลานาน มีความเข้าใจกันเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ชุดนี้ก็ยังคงมีผู้เล่นจอมเก๋าที่ยังพร้อมจะคอยประคองทีมไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกัปตันทีมอย่าง กรานิต ชาก้า ที่ตอนนี้กำลังทำผลงานได้ดีกับทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล พาทีมขึ้นนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกตอนนี้ หรือเพลย์เมกเกอร์อย่าง เชอร์ดาน ชากิรี่ ที่ไว้ใจได้เสมอ
ที่สำคัญเลยคือกลุ่มนี้เป็นการย้อนรอยเมื่อปี 2018 เมื่อ 3 จาก 4 เคยอยู่ร่วมกันมาก่อน ทั้งสวิตเซอร์แลนด์, “แซมบ้า” บราซิล และเซอร์เบีย โดยมีหน้าใหม่เข้ามาก็คือแคเมอรูน
ดังนั้น สวิตเซอร์แลนด์ อาจจะหวังให้ผลงานมันซ้ำรอยเมื่อ 4 ปีก่อน แล้วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปได้
โปรแกรมของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
24 พฤศจิกายน พบ แคเมอรูน ที่อัล ยานูบ สเตเดียม เวลา 17.00 น.
28 พฤศจิกายน พบ บราซิล ที่สเตเดียม 974 เวลา 23.00 น.
2 ธันวาคม พบ เซอร์เบีย ที่สเตเดียม 974 เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 3 ธันวาคม)
