ปรับชื่อบอลอาชีพเป็น’ไทยลีก1-4′ ‘สมยศ’ยันชัด’ชัยนาท-อาร์มี่’หล่นชั้น!

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นประธานประชุมหารือจัดการแข่งขันฟุตบอลลีก ฤดูกาล 2017 ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อาคารพงษ์สุภี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ฤดูกาลหน้าทุกลีกในประเทศจะควบรวมกันในการบริหารงานเพียงบริษัทเดียวคือ บริษัท ไทยลีก จำกัด ทำให้ลีกต่างๆ จะปรับใหม่ดังนี้ ลีกสูงสุด จะเป็นไทยลีก 18 ทีม / ไทยลีก 2 ปรับมาจากดิวิชั่น 1 มี 18 ทีม / ไทยลีก 3 นำทีมอันดับ 1-4 ของลีกภูมิภาคในโซนต่างๆ 8 โซนที่ไม่ได้เลื่อนชั้นมารวมกันเป็น 32 ทีม และแบ่งสายบน-ล่าง สายละ 16 ทีม / ไทยลีก 4 คือทีมอันดับ 5 เป็นต้นไปของลีกภูมิภาคเดิมมารวมกันแล้วแบ่งออกเป็น 6 โซน / ลีกสมัครเล่น หรือดิวิชั่น 3 เดิมที่วางแผนกันไว้ แต่ยังไม่มีการระบุชื่อของลีก

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯกล่าวต่อว่า ลีกสูงสุดจะมีการปรับลดให้เหลือ 16 ทีม ในฤดูกาล 2019 ส่วนลีกรองลงมาจะยังคงจำนวนเดิมไว้ ทำให้การเลื่อนชั้น-ตกชั้นของฤดูกาล 2018 จะมีตกชั้นมากกว่า 3 ทีม และเลื่อนชั้นเพียง 3 ทีมเท่านั้น ส่วนโควต้านักเตะต่างชาติฤดูกาล 2017 ไทยลีกจะใช้ 3+1 (ต่างชาติ 3 คน เอเชีย 1 คน) เหมือนเดิม แต่ลีกรองลงมาจะเพิ่มโควต้านักเตะอาเซียนอีก 1 คน ไม่บังคับว่าจะต้องมี แต่ละทีมจะมีหรือไม่มีนักเตะอาเซียนในทีมก็ได้ สมาคมฯ จะจัดงานแถลงโร้ดแมปฟุตบอลลีก 2017 วันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อชี้แจงระเบียบต่างๆ ให้กับสโมสรได้รับทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อกำหนดว่าไทยลีก ฤดูกาล 2017 จะมีเพียง 18 ทีมดังนั้นอาร์มี่ ยูไนเต็ด และ ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ขอให้มีการเพิ่มเป็น 20 ทีม และจะได้เล่นในลีกสูงสุดต่อนั้นจะตกชั้นทันทีหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศตอบว่า “คำตอบอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้ว”

Advertisement

ด้านนายพาทิศ ศุพะพงษ์ โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า เมื่อนำทุกลีกมาบริหารงานในชื่อบริษัท ไทยลีก จำกัดแล้วนั้น งบประมาณทุกอย่างจะนำมาควบรวมเป็นก้อนเดียว และบริหารทุกลีกไปพร้อมกัน ส่วนการเพิ่มโควต้านักเตะอาเซียนตั้งแต่ไทยลีก 2 เป็นต้นไปนั้น เพื่อเป็นการขยายฐานแฟนบอลไปยังทุกประเทศในอาเซียน เพราะต้องการจะเป็นศูนย์กลางฟุตบอลลีกของอาเซียนไปในตัว เมื่อมีคนสนใจมากขึ้น มูลค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดจะสูงขึ้น ประโยชน์จะตกอยู่กับสโมสรเอง หลังจากเห็นผลดีผลเสียแล้วจะนำมาปรับใช้กับลีกสูงสุดในฤดูกาล 2019 อีกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image