บอลคู่ แมนฯ ซิตี้ กับ เชลซี ล่าสุด สมควรเป็นหนึ่งในเกมสุดยอดของฤดูกาล คนดูอยากได้อะไร มีให้ทุกอย่าง ความสนุกครบ คุณภาพเต็มร้อย สตาร์เต็มสนาม กุนซือ เป๊ป กับ คอนเต้ ใส่อารมณ์ร่วมจนล้น
ถ้าจะถามหาคนเกลียดเกมนี้ ก็คงมีแค่ฝ่ายแมนฯ ซิตี้ รวมทั้งเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เท่านั้นแหละ
ซิตี้แพ้คาบ้าน 3-1 ทั้งที่ครึ่งแรกนำก่อน และพูดได้ว่าเล่นดีกว่า แต่ครึ่งหลังทุกอย่างกลับพลิกเป็นตรงกันข้าม ผิดพลาดทั้งเกมรุก เกมรับ แถมนักเตะฟิวส์ขาด กุน อากูเอโร่ กับ แฟร์นันดินโญ่ โดนไล่ออกทั้งคู่ จบเกมแบบน่าผิดหวัง และเหลือแค่ 9 คน
เป๊ปกับแฟนๆ เรือใบ คงคิดเหมือนกันว่า ถ้าลูกที่ เควิน เดอ บรอยน์ ชาร์จโล่งๆ จ่อๆ 2 หลา ในช่วงที่ทีมนำอยู่ 1-0 หลุดเข้าไปตุงตาข่ายแทนที่จะเหินชนคาน แมนฯ ซิตี้ ไม่น่าแพ้ เผลอๆ จะชนะเอาด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ใช่ เดอ บรอยน์พลาดแบบไม่มีใครเขาพลาดกัน นั่นคือจุดพลิกเกมอย่างแท้จริง
บอลสูสีแบบนี้ ทุกลูก ทุกวินาทีมีความหมาย กุนซือระดับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ย่อมรู้ดีว่าแมนฯ ซิตี้ ฆ่าตัวตายเองชัดๆ ลูกที่ควรเข้าดันไม่เข้า ลูกไม่ควรเสียกลับเสีย เล่นไม่ละเอียดเอง ก็สมควรแพ้แหละครับ
เกมนี้ ซิตี้โทษเดอ บรอยน์ คนเดียวไม่ได้ แผงกองหลังที่เชื่องช้าต้องรับผิดชอบด้วย นิโคลัส โอตาเมนดี้ กับ จอห์น สโตนส์ เป็นคู่เซ็นเตอร์ที่ เคมีเข้ากันไม่ได้เลย คนนึงช้า และไม่ฉลาด อีกคนเด็ก กระดูกนิ่ม โดน ดีเอโก้ คอสต้า กับ เอเด็น อาซาร์ ฉีกกระจุย ยุ่ยพอๆ กัน
แมนฯ ซิตี้ มีเกมรุกที่ดี แต่ตราบใดที่กองหลังยังเป็น จุดอ่อน โอกาสที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมายิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ก็ไม่ง่ายแน่นอน เป๊ปคงต้องใช้เวลาปั้นกันพอสมควร ซิตี้ปีนี้ ดูยังไม่ใช่ทีมของเขาเต็มตัว บางคนน่าจะโละทิ้ง ก็ยังไม่ได้โละ เรือใบสีฟ้าก็เลยยิ่งติดๆ ขัดๆ ไปไม่ฉิวอย่างที่ควรจะเป็น
แมนฯ ซิตี้ เก่ง มีตัวเหนือชั้นหลายคน แต่พรีเมียร์ลีกตอนนี้ มีหลายทีมเล่นเร็วกว่า ดุกว่าซิตี้ เชลซีคือหนึ่งในนั้น และอาจจะรวมถึง ลิเวอร์พูล กับ สเปอร์ส ด้วย
