ไทย เร่งทำงบเตรียมจัดศึกเอเชี่ยนอินดอร์ โอซีเอกำชับเรื่องระบบไอที-วีซ่า

ไทย เร่งทำงบเตรียมจัดศึกเอเชี่ยนอินดอร์ โอซีเอกำชับเรื่องระบบไอที-วีซ่า

ฮุสเซน อัล มุสซาลาม ผู้อำนวยการใหญ่สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกับโอซีเอเป็นครั้งที่ 2 โดยมีนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะรองประธานโอซีเอที่กำกับดูแลการแข่งขัน และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รวมทั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันต่างๆ เข้าร่วมด้วยที่ห้องเวิลด์บอลรูม ซี ชั้น  23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอนด์ บางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม

ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่กรุงเทพฯ​และ จ.ชลบุรี ช่วงระหว่างวันที่ 17-26 พฤศจิกายน 2566 โดยประกอบด้วย คณะกรรมการสำนักงานฝ่ายเลขานุการฯ, คณะกรรมการบริหารการจัดการแข่งขัน, คณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ, คณะกรรมการฝ่ายเทคนิคกีฬา, คณะกรรมการฝ่ายสนับสนุนและบริการ, คณะกรรมการฝ่ายแผนงานและงบประมาณ, คณะกรรมการฝ่ายการแพทย์และสุขอนามัย, คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจราจร และคณะกรรมการฝ่ายประสานองค์กรกีฬาระหว่างประเทศ

ภายหลังการประชุม ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า เป็นการประชุมติดตามความพร้อมในการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ โดยคณะของโอซีเอได้มาติดตามเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกได้มาติดตามแล้วที่กรุงเทพฯและชลบุรี ครั้งนี้จะมีการอัพเดตกันว่าคณะกรรมการเตรียมการของไทยเตรียมกันไปถึงไหนแล้ว และรายงานต่อโอซีเอทุกด้าน โดยคณะเตรียมการจะมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน ส่วนตนเองทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะทำงานชุดนี้

Advertisement

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า ทางโอซีเอให้ความสำคัญกับระบบต่างๆ โดยระบบไอที เพราะเป็นระบบที่จะต้องเชื่อมไปกับทุกๆ คณะทำงาน และได้มีการเร่งรัดให้ไทยได้ตัดสินใจดำเนินการเรื่องไอที เรื่องการถ่ายทอด ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องมาหารือกัน เนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงปลายรัฐบาล เราก็จำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการทุกอย่าง เพราะสิ่งต่างๆ ที่ต้องเตรียมการจะต้องใช้เงินในงบประมาณปี 2566 ต่อเนื่องไปจนถึง 2567 รวมทั้งยังประเด็นเรื่องการทำวีซ่าของประเทศต่างๆ ค่อนข้างลำบาก ก็จะต้องมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เนิ่นๆ ตอนนี้ไทยเรามีความพร้อมอยู่ที่ 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่เหลือก็คือ การประสานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องงบประมาณต่างๆ ให้ลงตัว โดยรวมก็ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image