มัสต์แฮฟ-มัสต์แครี่ ตัวปัญหา! กกท.เร้า กสทช. แก้กฎ หวั่นไทยเสียเปรียบการเจรจา

มัสต์แฮฟ-มัสต์แครี่ ตัวปัญหา! กกท.เร้า กสทช. แก้กฎ หวั่นไทยเสียเปรียบการเจรจา

ความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “แคมโบเดีย 2023” ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ช่วงระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังเตรียมเจรจากับเจ้าภาพกัมพูชา ให้ลดค่าลิขสิขสิทธิ์ที่ตั้งไว้สูงถึง 800,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 27.6 ล้านบาท

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเองได้เดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม 2024 ซึ่งในโอกาสดังกล่าวได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่ที่จะใช้ในการจัดการแข่งขันจริงๆ รวมถึงยังได้เข้าพบผู้บริหารระดับสูงในวงการกีฬาของฝรั่งเศส และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่างๆ ของการแข่งขัน

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวอีกว่า ในโอกาสนี้ กกท.ยังได้เข้าพูดคุยถึงเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วย ซึ่งก็ทำให้ตนเองนั้นได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสิ่งที่น่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาของเมืองไทยเช่นกัน เพราะตั้งแต่จบจากฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ยังไม่มีการนำบทเรียน และปัญหาที่ยุ่งเหยิงต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้ “กฎมัสต์แฮฟ” และ “มัสต์แครี่” จนเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา มาร่วมถก และพูดคุยอย่างจริงจังแต่อย่างใด

Advertisement

“ส่วนตัวอยากให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุม ดูแล และกำกับการใช้ กฎมัสต์แฮฟ และมัสต์แครี่ ปรับแก้ไขกฎดังกล่าวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนจะมีปรับเปลี่ยนตรงไหน แก้อย่างไร กกท.ก็พร้อมจะเข้าไปร่วมรับฟัง และให้ข้อมูล เพราะต้องยอมรับว่ากฎดังกล่าว ยังคงเป็นปัญหาสำหรับการดำเนินการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันมหกรรมกีฬา ซึ่งก็รวมถึงซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชาด้วย อีกทั้งยังยากต่อการที่จะหาภาคเอกชนมาร่วมลงทุนภายใต้เงื่อนไข และกฎดังกล่าวด้วย” ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง กสทช.ได้ออกกฎ “มัสต์แฮฟ” (Must Have) ระบุ 7 มหกรรมกีฬาที่คนไทยต้องดูฟรี ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก พร้อมกับออกกฎ “มัสต์ แครี่” (Must Carry) ควบคู่กัน โดยระบุว่า เจ้าของลิขสิทธิ์ต้องดำเนินการให้ทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้คนไทยได้ชมแบบฟรีๆ ซึ่งด้วยเงื่อนไขต่างๆ ทำให้ยากต่อการที่ภาคเอกชนจะเข้ามาลงทุน หรือร่วมลงทุนกับภาครัฐในยุคปัจจุบัน รวมถึงทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในการต่อรองราคาค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาทั้ง 7 รายการกับเจ้าของลิขสิทธิ์ ที่รับทราบว่าไทยมีกฎดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image