“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ลงสนามในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016” รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง พบกับพม่า ที่ราชมังคลากีฬสถาน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม หลังจากที่นัดแรกสามารถบุกไปเอาชนะมาได้ก่อน 2-0 ที่บ้านของพม่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศหน้าสนามเป็นไปอย่างคึกคัก แฟนบอลไทยและพม่า ต่างทยอยเดินทางมาถึงสนามตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่ทว่าหลังจากที่เปิดประตูให้แฟนบอลเข้าสนามในเวลา 16.00 น. นั้น ได้มีแฟนบอลบางกลุ่มจุดพลุแฟลร์บริเวณหน้าสนามแข่งขัน จนทำให้โฆษกบริเวณหน้าสนามต้องประกาศเตือน เนื่องจากมีผลอาจทำให้ไทยถูกตัดสิทธิเล่นในบ้านหากเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
เกมนี้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยังคงยึดระบบ 3-4-1-2 เช่นเดิม นำทีมโดย ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, กองหลัง อดิศร พรหมรักษ์, ประทุม ชูทอง และธนบูรณ์ เกษารัตน์ วิงแบ๊กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, วิงแบ๊กขวา ทริสตอง โด มิดฟิลด์คู่กลาง สารัช อยู่เย็น กับ ปกเกล้า อนันต์ โดยมี “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นเพลย์เมกเกอร์สนับสนุนคู่กองหน้า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และศราวุฒิ มาสุข ขณะที่พม่า นำทีมโดยอ่อง ธู ดาวยิงตัวเก่งของทีม
เริ่มเกมเป็นฝ่ายพม่าที่ตามหลังอยู่ 2 ประตูนั้นเปิดเกมรุกเข้าใส่ไทยที่ยังไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองได้ แต่หลังจากผ่านไปได้ 10 นาที เป็นไทยที่เริ่มเปิดเกมบุกใส่บ้าง ก่อนจะมาพังประตูแรกสำเร็จในนาทีที่ 33 จากจังหวะที่ธีราทร ได้โอกาสเปิดจากด้านซ้ายและเป็นศราวุฒิพุ่งเข้ามาโหม่งเข้าประตูไปให้ทีมขึ้นนำ 1-0 จากนั้นไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบครึ่งแรกไทยนำ 1-0 สกอร์รวม 2 นัดไทยหนีเป็น 3-0
ครึ่งหลังไทยปรับเปลี่ยนผู้เล่นด้วยการถอดธีรศิลป์ออก แล้วให้ “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงสนามมาเล่นแทน ก่อนที่ไทยจะมาได้ลูกที่จุดโทษในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ยาน อ่อง คยอ กัปตันทีมพม่าหวดใส่กลางออกของศราวุฒิ และเป็นธีราทร รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ไทยนำ 2-0 หลังจากจังหวะดังกล่าวแกร์ด ไซเซ โค้ชของพม่าเกิดความไม่พอใจจนผู้ตัดสินต้องเชิญขึ้นไปชมเกมบนอัฒจันทร์
จากนั้นในนาทีที่ 76 ไทยได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่สิโรจน์ ได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษก่อนกระชากหนึ่งจังหวะแล้วซัดแสกหน้านายทวารพม่าเข้าไปให้ไทยหนีห่าง 3-0
ท้ายเกมนาทีที่ 82 ไทยมาได้ประตูปิดท้าย จากจังหวะที่ต่อบอลกันขึ้นมาและเป็นชนาธิป ซัดประตูแรกของตัวเองในทัวร์นาเมนต์นี้ได้สำเร็จ ให้ไทยหนีห่าง 4-0
จากนั้นไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกมไทยเอาชนะพม่า 4-0 รวมผลสองนัดไทยชนะ 6-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นสมัยที่ 8 จากการแข่งขันทั้งหมด 11 ครั้ง โดยนัดแรก ไทยจะเป็นฝ่ายบุกไปเยืือนอินโดนีเซีย ก่อนในวันที่ 14 ธันวาคม หลังจากนั้นจะกลับมาเล่นนัดที่ 2 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 17 ธันวาคม
